ทำมระบบบล็อกเชนจึงน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และโปร่งใส

ทำไมระบบบล็อกเชนจึงน่าเชื่อถือ ปลอดภัยและโปร่งใส?

สิ่งที่ทำให้การจัดเก็บข้อมูลด้วยระบบบล็อกเชนน่าเชื่อถือ, ปลอดภัยและโปร่งใส ก็คือสิ่งที่เรียกว่า Consensus Algorithms หรือฉันทามติ ซึ่งเป็นระบบที่จะทำให้ทั้งเครือข่าย(ทุกๆโหนดที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลก) มีความเห็นที่ตรงกันในข้อมูลหรือธุรกรรม

ดังนั้นทุกๆบล็อกข้อมูลที่จะเกิดขึ้นใหม่ ต้องมีการตรวจสอบก่อน จากนั้นทุกโหนดในเครือข่ายยอมรับและอัพเดทข้อมูลที่เหมือนกันทั้งระบบทั่วโลก นับว่าเป็นระบบสำคัญที่ทำให้บล็อกเชนรักษาความเป็น Decentralized(ระบบกระจายศูนย์ ไม่มีตัวกลาง)ได้

Consensus Algorithms คือมาตรการที่เครือข่ายบล็อกเชนใช้ในการยืนยันความน่าเชื่อถือของธุรกรรม โดยผู้ที่จะมาตรวจสอบข้อมูลและยืนยันธุรกรรม(โหนดหรือเรียกได้ว่า”นักขุด”) ต้องมีการ “เดิมพัน” หรือ Stake ด้วยอะไรบางอย่าง ทั้งเครือข่ายจึงจะยอมรับและอัพเดทข้อมูลเดียวกันทั้งระบบได้ การเดิมพันมีหลายวิธีการ แต่ที่นิยมใช้มากที่สุดตอนนี้ก็คือ Proof of Work(PoW) กับ Proof of Stake (PoS)

PoW ตัวอย่างบล็อกเชนที่ใช้วิธีนี้ ก็คือบิทคอยน์บล็อกเชน(Bitcoin Blockchain) เป็นวิธีการที่แต่ละโหนดต้องแข่งขันกันแก้สมการโจทย์คณิตศาสตร์ โดยใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผลในการแก้สมการ ซึ่งตรงนี้ต้องใช้กำลังไฟฟ้าอย่างมากเลยทีเดียว โหนดไหนที่แก้สมการได้ก่อนก็จะมีสิทธิในการตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ในระบบ วิธีการแบบนี้แหละที่เรียกว่า”การขุด”(Mining)

PoS ตัวอย่างบล็อกเชนที่ใช้วิธีนี้ ก็เช่น Ethereum 2.0(เหรียญETH), Cardano(เหรียญADA) เป็นวิธีการที่ ผู้ที่ต้องการเข้ามาเป็นโหนด(จะเรียกว่า Validator ผู้ตรวจสอบบัญชี) ต้องมีเหรียญมาวางเดิมพัน เช่น ใช้เหรียญ ETH จำนวนตามที่กำหนดมาล็อคไว้ในระบบ(Stake) อารมณ์ประมาณว่าไม่ต้องขุดแล้ว เอาเงินมาวางเดิมพันกันไว้เลย ก็ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าแล้ว จากนั้นทุกๆโหนดที่ล็อคเหรียญไว้ จะได้สิทธิในการเลือกธุรกรรมที่เกิดใหม่ และเครือข่ายจะทำการสุ่มธุรกรรม

เช่น สมมติว่าแจ๊คสัน เลือกธุรกรรมA, ส่วนรัศมีแข เลือกธุรกรรมB และคนอื่นๆที่เป็นโหนด(Validator) ต่างก็เลือกธุรกรรมที่มาใหม่กันไว้ แล้วปรากฎว่าระบบสุ่มเลือกธุรกรรมAของแจ๊คสัน แจ๊คสันก็จะได้สิทธิในการตรวจสอบและยืนยันธุรกรรม

ถามว่าเข้ามาเป็นโหนด แล้วได้อะไรล่ะ? แน่นอนทุกๆการทำงานต้องมีรางวัลตอบแทน ผู้ที่เป็นนักขุด หรือ ผู้ตรวจสอบบัญชี ก็จะได้ค่าตอบแทนเป็นเหรียญที่เกิดขึ้นใหม่ในระบบ และค่า Fee (ค่าธรรมเนียมการโอนของธุรกรรมที่ยืนยันไป)

ระบบบล็อกเชน ทุกคนได้ประโยชน์ทั้งผู้ใช้งาน, ผู้เข้าร่วมยืนยันธุรกรรม และเป็นระบบบัญชีแบบกระจายศูนย์ เป็นเรื่องยากในการทำลายระบบ ข้อมูลในระบบจึงน่าเชื่อถือ ปลอดภัย โปร่งใสและตรวจสอบได้