ลงทุนอย่างไรในคริปโต วิธีเริ่มต้นในการสร้างความมั่งคั่งด้วย stablecoins และ Bitcoin

ลงทุนอย่างไรในคริปโต วิธีเริ่มต้นในการสร้างความมั่งคั่งด้วย stablecoins และ Bitcoin
หลาย ๆ คนอาจจะกระโดดเข้ามาในแวดวงคริปโต เนื่องจากการได้ยินข่าวสารเกี่ยวกับผลตอบแทนทางการเงินของ คริปโต ที่หลั่งไหลเข้าไปในกลุ่ม hodlers รวมถึงตัวคุณเองก็อาจจะกำลังมองหาหนทางทำเงิน เพื่อให้หลุดพ้นจากคำว่า เงินเฟ้อ ใช่หรือไม่?
Bitcoin (BTC) เป็นสกุลเงินดิจิทัล แบบกระจายอำนาจ ที่แซงหน้าสินทรัพย์ต่าง ๆ แบบดั้งเดิมในการสร้างผลตอบแทนให้กับเงินออมของคุณ เช่น หุ้น ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ หากคุณถามว่า: คริปโตเป็นวิธีที่ดีในการสร้างความมั่งคั่งหรือไม่ คำตอบคือ ยืนยันได้
Bitcoin เปิดตัวในปี 2009 โดยนักพัฒนาที่ใช้นามแฝงว่า Satoshi Nakamoto และมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจนเป็นที่น่าประหลาดใจ โดยมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณจาก 0.08 ดอลลาร์เป็นมากกว่า 68,300 ดอลลาร์ในปี 2021 เมื่อเปรียบเทียบกับทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนใกล้เคียงกับเหรียญคริปโต กลับมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเพียง 627% ในช่วง 100 ปี จาก 283 ดอลลาร์ ในเดือนมกราคม 1921 เป็น 2,060 ดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม 2020
แม้ว่า Bitcoin จะเริ่มซื้อขายกันที่ราคา 0.0008 ดอลลาร์ ในเดือนกรกฎาคม 2010 แต่ราคาก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในช่วงปีแรก ๆ โดยค่อยๆ ไต่ขึ้นไปที่ช่วง 10 ดอลลาร์ จากนั้นพุ่งขึ้นไปที่ 250 ดอลลาร์ในเดือนเมษายน 2013 และไต่ขึ้นเป็น 68,300 ดอลลาร์ในปี 2021 อย่างไรก็ตาม การเดินทางของ Bitcoin นั้นไม่ได้สมบูรณ์แบบ เพราะแม้ว่าราคาจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง แต่ก็กลับร่วงลงมาอย่างหนักได้เช่นกัน ก่อนที่จะกลับขึ้นไปในจุดที่สูงขึ้นไปกว่าเดิม
ราคาของ Bitcoin นั้นมีความผันผวนอย่างมาก ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2021 Bitcoin มีมูลค่าร่วงลงถึง 30% คือเกือบ ๆ 30,000 ดอลลาร์ หากเปรียบเทียบการร่วงลงของมูลค่ากับการพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ราคา 64,829 ดอลลาร์ ในช่วงกลางเดือนเมษายน จะเห็นว่ามูลค่าที่ลดลงนั้นมากกว่า 50% เลยทีเดียว ด้วยความผันผวนนี้เอง จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สำหรับผู้ที่มาใหม่ที่คิดจะเดินไปบนเส้นทางการสร้างรายได้ด้วย Bitcoin
ไม่เพียงแต่ Bitcoin เท่านั้น สกุลเงินคริปโต ทั้งหมดยังเป็นการลงทุนที่พลิกผันอย่างไม่น่าเชื่อ ยกเว้น กลุ่ม Stablecoins ซึ่งเป็นสกุลเงินคริปโตที่มีเสถียรภาพด้านราคา Stablecoins นั้นถูกตรึงมูลค่าไว้กับสินทรัพย์เช่น ดอลลาร์สหรัฐ หรือทองคำ ซึ่งทำให้มูลค่าของมันมีความเสถียรมากกว่าสกุลเงินคริปโตทั่วไป สิ่งนี้ทำให้ Stablecoins เป็นสกุลเงินคริปโตชนิดพิเศษ ที่ไม่มีความผันผวนอย่างมาก Stablecoins จึงเป็นคำตอบที่น่าเชื่อถือสำหรับคำถาม เกี่ยวกับวิธีสร้างความมั่งคั่งด้วยคริปโต
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการรักษาความมั่งคั่งด้วย Bitcoin และ Stablecoin เราจะมาเริ่มกันที่ Bitcoin ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุด ในบรรดาสกุลเงินคริปโตทั้งหมด
Bitcoin เป็นวิธีการรักษาความมั่งคั่ง
ในฐานะที่เป็นวิธีการรักษาความมั่งคั่งที่แข็งแกร่ง Bitcoin สามารถใช้ได้ 2 วิธี คือ ใช้เป็นเงินสำรองที่ใช้จ่ายได้และช่วยป้องกันภาวะเงินเฟ้อ ด้วยอุปทานที่จำกัดและการกระจายอำนาจ คุณอาจใช้ Bitcoin เพื่อการออมเงิน
Bitcoin ไม่มีขอบเขตทางภูมิศาสตร์ ทำให้คุณมีอิสระในการส่งและรับสกุลเงินคริปโตจากที่ใดเวลาใดก็ได้โดยไร้อุปสรรคทางการเงินบนโลกใบนี้ ทำให้คุณควบคุมเงินของคุณได้อย่างสมบูรณ์ Bitcoin เป็นแผนสำรองที่แข็งแกร่งในกรณีที่เกิดภัยพิบัติทางการเงิน
สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในประเทศที่เผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรง Bitcoin สามารถกลายเป็นแผนช่วยชีวิตได้ ลองมาดูตัวอย่างของเวเนซุเอลา ซึ่งอัตราเงินเฟ้อประจำปีสูงถึง 80,000% ณ สิ้นปี 2018 สถานการณ์เลวร้ายมากจนคาดว่าผู้คนมากกว่า 2.7 ล้านคนจะออกจากประเทศตั้งแต่ปี 2015
ไม่น่าแปลกใจที่ Carlos Hernandez หนุ่มชาวเวเนซุเอลา ใช้ Bitcoin เพื่อเอาชนะอัตราเงินเฟ้อ ท่ามกลางความโกลาหลทางเศรษฐกิจ Bitcoin ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยชีวิตทางการเงิน เขาได้แปลงสินทรัพย์ทั้งหมดของเขาเป็น Bitcoin และถอนเงินจำนวนเล็กน้อยเป็นครั้งคราวเพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของเขา
เมื่อพูดถึงการรักษาความมั่งคั่งหรือการเอาชนะอัตราเงินเฟ้อ Bitcoin มักจะถูกเปรียบเทียบกับทองคำ แม้ว่าสินทรัพย์ทั้งสองอย่างจะมีปริมาณที่จำกัด แต่ทองคำก็เป็นโลหะที่จับต้องได้ซึ่งมีมานานนับพันปีและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นของมีค่า
ในขณะที่ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ต้องใช้เวลากว่าจะได้รับความไว้วางใจจากคนทั่วไป อย่างไรก็ตาม ดังตัวอย่างที่ Hernandez สร้างขึ้น Bitcoin ทำงานได้ดีกว่าทองคำเมื่อต้องเอาชนะอัตราเงินเฟ้อ
จากเหตุการณ์ที่กล่าวไปทำให้ยอมรับได้ว่า Bitcoin นั้นเป็นวิธีการรักษาความมั่งคั่งได้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีศักยภาพในการทำกำไรโดยการลงทุนในคริปโต นั่นก็คือ Stablecoins
ลงทุนอย่างไรในคริปโต: ทำความเข้าใจกับ stablecoin
ความผันผวนของสกุลเงินคริปโตที่รุนแรงอาจมอบโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับนักเทรดขั้นสูงในช่วงขาขึ้น แต่ความผันผวนนี้เป็นตัวทำลายเสถียรภาพอย่างแน่นอน บุคคลและธุรกิจส่วนใหญ่จะไม่สนใจที่จะรับการชำระเงินประเภทที่มีความผันผวนได้ตลอดเวลา สิ่งนี้ทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมองหาการสร้างความมั่งคั่งผ่านสกุลเงินคริปโตที่มีเสถียรภาพ ซึ่งจะมีมูลค่าที่ไม่ผันผวน ในที่สุดก็นำไปสู่การเกิดขึ้นของ Stablecoins
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 มูลค่าตลาดของ Stablecoins อยู่ที่ประมาณ 180 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากประมาณ 38 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว สิ่งนี้มีสาเหตุมาจากสถานะของ Stablecoins ในฐานะตัวขับเคลื่อนของการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi)
ในฐานะผู้เริ่มต้น การเรียนรู้วิธีลงทุนในสกุลเงินคริปโต คงต้องการทราบว่า Stablecoins จะเข้ามาเป็นสะพานเชื่อมระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมและตลาดสกุลคริปโตได้อย่างไร รวมถึงการอำนวยความสะดวกในกิจกรรมทางการเงินที่สำคัญ เช่น การปล่อยกู้, การกู้, derivatives และอื่นๆ ที่ให้มูลค่าพื้นฐานที่เชื่อถือได้แก่ระบบนิเวศ DeFi
Stablecoins มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ตรึงมูลค่ากับสกุลเงินทั่วไป เช่น USD หรือโลหะ และประเภทที่เป็นเหรียญแบบอัลกอริทึม ในกรณีแรก จะมีการสำรองเงิน fiat หรือเก็บรักษาทรัพย์สินในรูปแบบสกุลเงิน fiat ไว้ที่ส่วนกลาง เพื่อรักษามูลค่าของสกุลเงินคริปโตให้คงที่ ตัวอย่าง Stablecoin ที่เก็บสำรองเงิน USD และออกเหรียญคริปโตในจำนวนที่เท่ากันกับเงินสำรองที่เก็บไว้ ได้แก่ Tether (USDT) และ USD Coin (USDC) ซึ่งทั้งสองเป็น Stablecoin ยอดนิยมในตลาดคริปโต
ในทางกลับกัน แนวทางของเหรียญ stablecoin แบบอัลกอริทึม จะเป็นการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหลักประกันในการค้ำมูลค่า เหรียญอัลกอริทึมจะใช้สิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจเพื่อรักษามูลค่าของ stablecoin ให้เสถียร ผ่านสัญญาอัจฉริยะ อย่างเช่น Dai (DAI) และ U.S. Dollar Index (USDX) เป็น 2 ตัวอย่างของเหรียญ stablecoin แบบอัลกอริทึม
โปรดจำไว้ว่า Stablecoin แบบแรก มีแนวโน้มที่จะมีเสถียรภาพมากกว่าแบบที่ 2 ซึ่งคุณอาจต้องการถือครองเหรียญ Stablecoin นี้ทั้ง 2 แบบ ในพอร์ตโฟลิโอสกุลเงินคริปโตของคุณ
นอกจากการมีมูลค่าที่ไม่ผันผวน Stablecoins ยังให้ประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ประสิทธิภาพในการสร้างเหรียญและการจัดการการออกเหรียญใหม่ การทำธุรกรรมข้ามประเทศที่ง่ายดาย และการทำงานร่วมกันกับโครงการคริปโตต่างๆ การถือกำเนิดของ Stablecoins ได้ช่วยลดความผันผวนของสกุลเงินคริปโต ทำให้นักเทรดไม่จำเป็นต้องแปลงเหรียญคริปโตเป็นเงิน fiat และถอนเงินออกจากกระดานเทรด ในภาวะตลาดตกต่ำ
ลงทุนอย่างไรในคริปโต: วิธีซื้อและจัดเก็บ Stablecoins
ในการซื้อ Stablecoins คุณต้องมีกระเป๋าเงินคริปโต หรือเปิดบัญชีอยู่บนกระดานเทรดคริปโต ด้วยแพลตฟอร์มเหล่านี้ คุณสามารถซื้อคริปโตได้ด้วยเงิน fiat กระดานซื้อขายคริปโตแบบรวมศูนย์ มักจะแสดงรายการเฉพาะเวอร์ชันที่สนับสนุนด้วยคำสั่งเท่านั้น หากคุณมี Bitcoin ที่คุณต้องการแลกเปลี่ยนเป็น Stablecoin ก่อนที่จะลงทุนในสกุลเงินคริปโต คุณจะต้องใช้กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตแบบกระจายศูนย์ (DEX)
สำหรับการจัดเก็บคริปโตของคุณ คุณสามารถฝากไว้ในกระเป๋าเงินส่วนกลางหรือฝากไว้บนแพลตฟอร์มกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ ที่เชื่อถือได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น คุณสามารถย้ายเงินคริปโตของคุณไปยังกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ หรือที่เรียกว่า กระเป๋าเงินเย็น (cold wallet) เนื่องจากกระเป๋าเงินประเภทนี้จะไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ความปลอดภัยจึงสูงกว่า และเมื่อคุณต้องการใช้เงินคริปโตที่อยู่ใน cold wallet ก็สามารถนำมาเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ต่อกับอินเทอร์เน็ตได้
การลงทุนสินทรัพย์คริปโตเคอเรนซี: เพิ่มความมั่งคั่งของคุณด้วย Stablecoins
สำหรับ Bitcoin สูตรสร้างความมั่งคั่งนั้นง่ายมาก คือรอซื้อในช่วงที่ราคาร่วงลง ซึ่งสูตรนี้ใช้ได้กับเหรียญคริปโตอื่น ๆ ทั้งหมด คุณสามารถเป็นผู้ชนะได้หากคุณถือครองมันในระยะยาว โดยทำการซื้อสะสมเมื่อใดก็ตามที่ราคาร่วงลง ในที่สุดคุณจะพบแหล่งความมั่งคั่งสำหรับตัวคุณเอง อย่ามองแบบสั้น ๆ และพยายามจะซื้อให้ได้ในจุดต่ำสุดและขายให้ได้ในจุดที่สูงสุด เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ทำการซื้อขายแบบนี้ มักจะสูญเสียเงินทุนซะมากกว่า
มาดูกันว่านักลงทุนคริปโตทั่ว ๆ ไป สามารถใช้ Stablecoins เพื่อพัฒนาความมั่งคั่งได้อย่างไร
Lending
Lending หรือ การปล่อยกู้คริปโต นั้น มีหลักการค่อนข้างคล้ายกับระบบการธนาคารโดยทั่วไป นั่นคือการฝากเงินไว้กับธนาคารและรับดอกเบี้ยจากธนาคาร ด้วยสถานะที่ไม่ผันผวนของ Stablecoins ทำให้คุณสามารถปล่อยกู้เหรียญ Stablecoin ของคุณผ่านแพลตฟอร์ม DeFi ได้ โดยทางแพลตฟอร์มจะนำเงินคริปโตของคุณไปปล่อยกู้ และมอบดอกเบี้ยหรือเงินปันผลให้กับคุณ
Staking
ระบบฉันทามติแบบ Proof-of-stake (PoS) ที่ใช้ในโปรโตคอลต่างๆ กำหนดให้นักขุดต้องวางเดิมพันเหรียญ หรือที่เรียกว่า stake เหรียญ ก่อน จึงจะสามารถตรวจสอบธุรกรรมได้ เมื่ออัลกอริธึมเฉพาะบนโหนดทำการตรวจสอบธุรกรรม เหรียญที่ stake ไว้ก็จะสร้างรางวัลให้กับผู้ที่ทำการ stake เหรียญ นอกจากนี้ วิธีการ staking ยังช่วยให้ผู้ถือ Stablecoins ได้สนุกสนานกับการสร้างรายได้อย่างมั่นคงและเพิ่มพูนความมั่งคั่ง
Yield farming
การทำ Yield farming เป็นเทคนิคใหม่สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล หมายถึงกระบวนการล็อคสินทรัพย์ไว้ในแหล่งสภาพคล่อง เพื่อช่วยให้แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ หรือ DeFi มีสภาพคล่องของกองทุน Yield farming นั้นเป็นคำยอดนิยมสำหรับความพยายามในการสร้างผลตอบแทนให้สูงที่สุด
ผู้ที่ลงทุนด้วยวิธี Yield farming จะทำการฝาก Stablecoins เพื่อกู้ยืมเหรียญคริปโตอื่น ไปขายบนแพลตฟอร์มอื่นในราคาที่สูงกว่า จากนั้นจะกลับมาคืนเงินที่ยืมพร้อมดอกเบี้ย และเก็บผลกำไรไว้ ในปี 2020 นับว่าเป็นปีแห่ง DeFi การทำ Yield farming ถือเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่ใหญ่ที่สุด โดยผลักดันมูลค่าตามราคาตลาดจาก 500 ล้านดอลลาร์เป็น 10,000 ล้านดอลลาร์ นักลงทุนใน Yield farming ส่วนใหญ่มักซื้อขายใน Stablecoins เช่น USDT, USDC และ DAI
Liquidity mining
Liquidity mining เป็นกิจกรรมหลักในโครงการ DeFi เป็นการให้สภาพคล่องแก่โปรโตคอล นักลงทุนจะส่งมอบเหรียญคริปโตของพวกเขาให้กับคู่การซื้อขายเช่น Polkadot (DOT)/USDC ในกลุ่มสภาพคล่องหรือที่เรียกว่า สัญญาอัจฉริยะสำหรับการซื้อขายคริปโต (จะแตกต่างจาก Lending)
ในทางกลับกัน โปรโตคอลจะให้รางวัลแก่นักลงทุนเป็น โทเค็นผู้ให้บริการสภาพคล่อง (liquidity provider หรือ โทเค็น LP) ตราบเท่าที่นักลงทุนยังคงรักษาโทเค็นที่ส่งไปไว้ใน pool พวกเขาจะได้รับโทเค็นประจำแพลตฟอร์ม หรือโทเค็นการกำกับดูแล (governance token) พร้อมกับโทเค็น LP
กลไก Liquidity mining

Store-of-value ตัวเก็บมูลค่า
หากคุณต้องการถือครองเหรียญคริปโตในระยะยาว เพื่อหลีกหนีจากความผันผวน เหรียญ stablecoins จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในฐานะตัวเก็บมูลค่า เนื่องจาก stablecoin นั้นถูกออกแบบมาเพื่อรักษามูลค่าให้คงที่เมื่อเวลาผ่านไป พวกมันทำงานได้ดีอย่างน่าอัศจรรย์ หากคุณต้องการรักษาเงินทุนของคุณไว้เป็นทุนสำรองและอยู่ห่างจากเหรียญคริปโตที่ผันผวน และหากคุณไม่มีความสนใจในการเก็งกำไรและทำกำไรด้วยราคาสกุลเงินคริปโตที่ขยับขึ้นและลง stablecoins ก็เป็นตัวเลือกของคุณ
เหรียญที่ใช้งานได้ภายในโบรกเกอร์คริปโต
ปัจจัยด้านความไม่ผันผวน ช่วยให้นักเทรดสามารถใช้ stablecoins เป็นสกุลเงินที่ใช้งานได้ภายในโบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์คริปโต นักเทรดที่ทำกำไรจาก Bitcoin อาจไม่แปลง BTC เป็นเหรียญ stablecoin อย่างเช่น USDT เพื่อรักษาความมั่งคั่งของพวกเขาและรอราคาวิ่งขึ้นอีกครั้ง
ในมือของนักลงทุนขั้นสูง Stablecoins ทำงานเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพ ยิ่งไปกว่านั้น คุณสามารถทำธุรกรรมกับ Stablecoins ได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ ไม่เหมือนระบบธนาคารซึ่งใช้งานได้ตามจำนวนชั่วโมงที่กำหนดเท่านั้น
การลงทุนสินทรัพย์คริปโต: ความเสี่ยงในการซื้อขายคริปโต
เช่นเดียวกับสถานที่ลงทุนอื่น ๆ การซื้อขายคริปโตก็มีความเสี่ยงเช่นกัน:
- การทำ Yield farming มีความเสี่ยงร่วมกัน ซึ่งรวมถึง การถูกล้างบัญชี, ความสามารถในการจัดองค์ประกอบ, สัญญาอัจฉริยะ และความเสี่ยงในการสูญเสียที่ไม่แน่นอน
- มูลค่าของ Stablecoin อาจลดลงหากบริษัทผู้ออกเหรียญเกิดการล้มละลาย
- หากความเชื่อมั่นของชุมชนที่มีต่อบริษัทที่ถือครองสินทรัพย์สำรองลดลง มันอาจสะท้อนให้เห็นในมูลค่าของ Stablecoin
- กลยุทธ์การซื้อขายบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำ Yield farming อาจค่อนข้างซับซ้อน
หนทางสู่ความมั่งคั่ง
หากเรามีการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ คริปโตจะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการรักษาและเพิ่มพูนความมั่งคั่งของคุณ ในขณะที่ BTC และ เหรียญคริปโต อื่น ๆ เป็นตัวขับเคลื่อนความมั่งคั่งสำหรับกลุ่มนักลงทุนทั่วโลก แต่พวกมันก็มีความผันผวนอย่างมาก การตระหนักถึงช่วงขาลงของราคา, การเข้าสู่ช่วงขาขึ้น และการลงทุนในระยะยาวเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในการลงทุนในคริปโต
Stablecoins เป็นการลงทุนที่ง่ายและปลอดภัยกว่า เนื่องจากความผันผวนเล็กน้อย คุณสามารถใช้เงินเย็นของคุณเพื่อ staking และ liquidity mining เพื่อสร้างรายได้แบบ passive ที่มั่นคง และเมื่อคุณรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบนิเวศของคริปโตแล้ว คุณสามารถเลือกทำ yield farming ได้ ซึ่งจะทำให้คุณได้รับข้อเสนอพิเศษมากขึ้นแทบจะในทันที โดยไม่ต้องใช้เวลามากในการเลือกหัวข้อการลงทุนด้วยเหรียญ Stablecoins และเพิ่มพูนความมั่งคั่งที่คุณมี
ที่มา LINK