Blockchain และ AI มีความสัมพันธ์กันอย่างไร?

คำนำ

ในโลกของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีคำศัพท์สองคำที่โดดเด่นคือ บล็อคเชนและปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence หรือ AI) แม้ว่าข้อกำหนดเหล่านี้อาจฟังดูซับซ้อนสำหรับผู้มาใหม่ แต่การทำงานร่วมกันของทั้งสอง กำลังเปลี่ยนรูปแบบอุตสาหกรรมและฉายแววถึงอนาคตของนวัตกรรม ในบทความนี้ เราจะพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างบล็อกเชนและ AI, สำรวจกรณีการใช้งาน, ประโยชน์ที่เป็นไปได้ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

Blockchain: ฐานข้อมูลแบบกระจาย

ลองจินตนาการถึงสมุดบันทึกที่ทุกคนแบ่งปันกัน และเมื่อมีบางสิ่งถูกเขียนลงในนั้น สิ่งนั้นจะไม่สามารถลบหรือเปลี่ยนแปลงได้ นั่นคือแก่นแท้ของบล็อคเชน มันเหมือนกับบัญชีแยกประเภทดิจิทัลที่โปร่งใสและปลอดภัยที่ใช้ร่วมกันระหว่างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เป็นฐานข้อมูลที่ผู้ใช้ทุกคนแชร์กันได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีหน่วยงานกลาง

AI: พลังสมองที่อยู่เบื้องหลังเครื่องจักร

กล่าวโดยสรุปแล้ว AI คือความสามารถของโปรแกรมในการเรียนรู้ แต่คำนี้อาจหมายถึงวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมของโปรแกรมคอมพิวเตอร์อัจฉริยะด้วย AI เลียนแบบปัญญาของมนุษย์โดยใช้อัลกอริธึมอัจฉริยะ เป็นพลังสมองที่อยู่เบื้องหลังเครื่องจักร ช่วยให้พวกเขาเรียนรู้, วิเคราะห์ข้อมูล และตัดสินใจได้ คุณสามารถมอง AI ว่าเป็นผู้ช่วยเสมือน โดยเรียนรู้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้และทำงานทุกประเภท ChatGPT เป็นตัวอย่างยอดนิยมของ AI

กรณีการใช้งาน Blockchain และ AI

การบรรจบกันของบล็อคเชนและ AI กำลังเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมและปฏิวัติกระบวนการแบบดั้งเดิม ตั้งแต่การยกระดับความปลอดภัยและความโปร่งใสไปจนถึงการปรับปรุงการวิเคราะห์ข้อมูลและการใช้สัญญาอัจฉริยะ (smart contracts) แบบอัตโนมัติ กรณีการใช้งานสำหรับบล็อกเชนและ AI มีความหลากหลายและมีประสิทธิภาพ ในส่วนนี้ เราจะเจาะลึกสถานการณ์บางอย่างที่การทำงานร่วมกันระหว่างบล็อกเชนและ AI สามารถสร้างผลประโยชน์ที่น่าตื่นเต้นได้

ปรับปรุงความปลอดภัยและการป้องกันการฉ้อโกง

บล็อกเชนได้รับการออกแบบให้มีความทนทานสูงต่อการดัดแปลงข้อมูลและกิจกรรมฉ้อโกง โครงสร้างพื้นฐานของเครือข่ายแบบกระจายรวมกับเทคนิคการเข้ารหัสสามารถเพิ่มระดับความปลอดภัยเพิ่มเติมให้กับระบบ AI ได้

ตัวอย่างเช่น สามารถตั้งโปรแกรมโมเดล AI ให้เข้าถึงระบบบางระบบหรือชุดข้อมูลเฉพาะได้ก็ต่อเมื่อตรงตามเงื่อนไขบางประการเท่านั้น เงื่อนไขดังกล่าวสามารถบังคับใช้โดยเครือข่ายผู้ใช้แบบกระจายผ่านการใช้ smart contracts

ในทางปฏิบัติ เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยฐานข้อมูลทุกประเภท (เช่น การเงิน, การดูแลสุขภาพ ฯลฯ) ในบริบทนี้ AI สามารถใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเมื่อวิเคราะห์และจัดการข้อมูลบล็อกเชน

การจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายอำนาจ

พื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบกระจายอำนาจบนบล็อคเชนสามารถช่วยรับรองความถูกต้องของข้อมูลและความสมบูรณ์ของข้อมูลได้ สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับระบบ AI เนื่องจากมักจะอาศัยชุดข้อมูลจำนวนมาก โมเดลการเรียนรู้ของ AI ยังสามารถใช้ร่วมกับเทคนิคการเข้ารหัสเพื่อให้การป้องกันการถูกเจาะและปรับปรุงความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

การจัดการ supply chain

การจัดการการเดินทางของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่การสร้างสรรค์จนถึงการส่งมอบ เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ซับซ้อน Blockchain นำความโปร่งใสและตรวจสอบย้อนกลับมาสู่ supply chain และ AI ช่วยเสริมสิ่งนี้โดยการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่สร้างขึ้น, รายงานปัญหาสินค้าคงคลังที่อาจเกิดขึ้น, การระบุรูปแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทั้งหมด ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ การจัดการ supply chain ที่มีประสิทธิภาพพร้อมข้อผิดพลาดน้อยที่สุดและเพิ่มผลผลิต

Smart contracts และระบบอัตโนมัติ

Smart contracts คือสัญญาที่ดำเนินการด้วยตนเองโดยมีกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า AI สามารถเพิ่มความชาญฉลาดให้กับสัญญาเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น อัลกอริธึม AI ที่ฝังอยู่ใน smart contracts สามารถทำงานอัตโนมัติตามการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ การผสานรวมกันนี้เป็นการยกระดับของระบบอัตโนมัติ โดยลดความจำเป็นในการใช้ตัวกลางและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: Etherscan เปิดตัว ‘Code Reader’ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อวิเคราะห์ code ของ smart contract

Blockchain และ AI: ประโยชน์ที่เป็นไปได้

ปรับปรุงความปลอดภัย

ลักษณะการป้องกันการปลอมแปลงของบล็อคเชน รวมกับความสามารถของ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลและตรวจจับความผิดปกติ ทำให้เกิดกรอบการทำงานด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการละเมิดข้อมูลและการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้เกิดความไว้วางใจในธุรกรรมดิจิทัล

เพิ่มประสิทธิภาพ

การผสมผสานระหว่างบัญชีแยกประเภทที่โปร่งใสของบล็อคเชนและความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลของ AI นำไปสู่กระบวนการที่คล่องตัว ธุรกิจต่างๆ สามารถสัมผัสกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น, ต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลง และการตัดสินใจที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

ประสบการณ์ส่วนบุคคล

AI เจริญเติบโตบนข้อมูล และบล็อกเชนทำให้มั่นใจในความปลอดภัยและความถูกต้องของข้อมูลนั้น การผสมผสานนี้ทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวแก่ผู้ใช้ ตั้งแต่การแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ปรับให้เหมาะสมไปจนถึงบริการที่ปรับให้เหมาะสม

Blockchain และ AI: ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

ความแม่นยำในอัลกอริธึมของ AI

แม้ว่า AI จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่อัลกอริธึมของมันก็มีความเป็นกลางพอๆ กับข้อมูลที่ได้รับการทดสอบแล้ว หากข้อมูลนั้นมีความลำเอียง ก็จะส่งผลถึงการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วย AI สิ่งสำคัญคือต้องรับรู้และบรรเทาความลำเอียงเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา วิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหาอคติใน AI คือการใช้ชุดข้อมูลที่หลากหลายและเป็นตัวแทนซึ่งสอดคล้องกับขั้นตอนการทดสอบที่แข็งแกร่งและการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง

ความท้าทายในการผสานรวม

การผสานรวมเทคโนโลยีที่ซับซ้อน 2 อย่างเข้าด้วยกัน ย่อมมาพร้อมกับความท้าทายร่วมกัน องค์กรอาจเผชิญกับอุปสรรคในการปรับระบบที่มีอยู่เพื่อรองรับการทำงานร่วมกันระหว่างบล็อกเชนและ AI การเอาชนะความท้าทายในการผสานรวมเหล่านี้ จำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและความเชี่ยวชาญทางเทคนิค

ข้อกังวลด้านกฎระเบียบ

เช่นเดียวกับเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่มีความกังวลเกี่ยวกับกฎระเบียบและการปฏิบัติตามข้อกำหนด ลักษณะการพัฒนาของบล็อคเชนและ AI อาจล้ำหน้ากรอบการกำกับดูแล ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในแง่ของความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎหมาย

ส่งท้าย

การทำงานร่วมกันระหว่างบล็อคเชนและ AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ก็มีความเป็นไปได้มากมาย เราได้พูดคุยถึงสถานการณ์ที่เป็นไปได้บางประการที่เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถมอบการรักษาความปลอดภัยที่ดีขึ้น, ประสิทธิภาพที่คล่องตัว และประสบการณ์ผู้ใช้ที่เป็นส่วนตัว อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น เช่น ความแม่นยำในอัลกอริธึม AI และความซับซ้อนของการผสานรวมของทั้ง 2

เนื่องจากเทคโนโลยีบล็อกเชนและ AI มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราจึงสามารถคาดการณ์การพัฒนาที่ก้าวล้ำในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ ตั้งแต่การปฏิวัติธุรกรรมทางการเงิน ไปจนถึงการสร้าง supply chain ที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ในอนาคตมีแนวโน้มที่จะนำมาซึ่งนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้น