BNB Chain เปิดตัว Layer 2 ใหม่ไฉไลกว่าเดิม ‘opBNB’ ที่เข้ากันได้กับ EVM บน testnet

BNB Chain ซึ่งเป็นระบบนิเวศบล็อกเชนที่ขับเคลื่อนโดยโทเค็น BNB ของ Binance ได้เปิดตัวเครือข่าย Layer 2 ที่เรียกว่า opBNB บนเครือข่ายทดสอบ
opBNB เป็นเครือข่ายปรับขนาดที่เข้ากันได้กับ Ethereum Virtual Machine (EVM) ซึ่งอิงจาก OP Stack ของ Optimism และใช้ optimistic rollups โดยทาง BNB Chain กล่าวเมื่อวันจันทร์ จุดประสงค์ของการเปิดตัวเครือข่ายเลเยอร์ 2 นี้ ก็เพื่อช่วยเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมและลดค่าธรรมเนียมลง
ความเร็วปัจจุบันของ BNB Smart Chain ซึ่งเป็นเครือข่ายเลเยอร์ 1 อยู่ที่ประมาณ 2,000 ธุรกรรมต่อ speed และต้นทุนเฉลี่ยต่อธุรกรรมอยู่ที่ประมาณ 3.70 บาท ในขณะที่เครือข่าย opBNB นั้น จะรองรับธุรกรรมมากกว่า 4,000 รายการต่อวินาที และมีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยต่ำกว่า 17 สตางค์ต่อธุรกรรม
BNB Smart Chain เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ BNB Chain พร้อมด้วย BNB Beacon Chain (ชั้นสำหรับ staking และการกำกับดูแลของระบบนิเวศ BNB Chain), BNB Greenfield (ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายอำนาจ) และ zkBNB (เครือข่าย Layer 2 ที่อาศัยเทคโนโลยี zero knowledge หรือ เทคนิค zk rollup) ขณะนี้ zkBNB ยังอยู่ในรูปแบบเครือข่ายทดสอบ ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว
mainnet ของ opBNB คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
opBNB ที่รองรับ EVM
เหตุผลที่ BNB Chain ต้องเปิดตัวเครือข่ายเลเยอร์ 2 อีกเครือข่ายหนึ่ง ก็เพราะว่า zkBNB ไม่รองรับ EVM แต่ opBNB นั้นจะช่วยให้ระบบนิเวศเติบโตต่อไปได้อีกด้วยความสามารถที่เข้ากันได้กับ EVM หมายถึงความสามารถของบล็อกเชนในการสนับสนุนและโต้ตอบกับแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นสำหรับบล็อกเชนที่เข้ากันได้กับสภาพแวดล้อมการประมวลผลของ Ethereum
ความเข้ากันได้กับ EVM มีความสำคัญ เนื่องจากช่วยให้นักพัฒนาสามารถนำแอปพลิเคชันที่รันอยู่บน Ethereum แล้วก่อนหน้านั้น ไปปรับใช้ยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่เข้ากันได้ ได้อย่างง่ายดาย ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันและขยายการเข้าถึงแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์
เลเยอร์ 2 ของ BNB Chain ตอนนี้ที่มีทั้ง zkBNB และ opBNB จะเห็นได้ว่า กำลังแข่งขันโดยตรงกับระบบนิเวศเลเยอร์ 2 ของ Ethereum ซึ่งรวมถึงโครงการต่างๆ เช่น Arbitrum และ Optimism และแม้ว่า opBNB ก็ใช้เทคโนโลยีบนพื้นฐานของ Optimism แต่ opBNB มีขีดจำกัด gas ที่สูงกว่าหรือพื้นที่บล็อกสูงกว่าถึง 100 ล้าน เมื่อเทียบกับ 30 ล้านของ Optimism ที่อยู่บน Ethereum ขีดจำกัด gas ที่สูงกว่านี้บ่งชี้ถึงความสามารถที่มากขึ้น สำหรับงานด้านการคำนวณภายในบล็อก ทำให้สามารถเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดและประมวลผลธุรกรรมได้มากขึ้นบนบล็อกเชนของ BNB Chain
BNB Chain เทียบกับ Ethereum
ระบบนิเวศของ BNB Chain ยังถือว่าเล็ก เมื่อเทียบกับระบบนิเวศของ Ethereum ตามข้อมูลของ DefiLlama ระบุว่า มูลค่ารวมที่ถูกล็อกหรือ TVL ในแอปพลิเคชันที่รันบน Ethereum นั้นมากกว่า 24 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ TVL ของโครงการที่รันบน BNB Chain มีมูลค่ามากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง BNB Chain กำลัง “พยายามผลักดันอย่างหนักในส่วนของนวัตกรรม” เพื่อนำแอปพลิเคชันที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้มาสู่ระบบนิเวศและทำให้ TVL เติบโตมากขึ้น
BNB Chain ยังคงมุ่งเน้นไปที่การสร้างอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้มองเรื่องผลกระทบของคดีความ ที่อาจมีต่อระบบนิเวศ แม้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้โทเค็น BNB ถูกมองว่าเป็นหลักทรัพย์โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) เมื่อมีการฟ้อง Binance, Binance.US และ Changpeng Zhao ซึ่งเป็นเจ้าของ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน
ที่มา LINK