การยอมรับ Crypto ในปี 2022 มีเหตุการณ์ใดบ้าง? ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไปข้างหน้า

ในขณะที่ ตลาด crypto ในปี 2022 ได้รับผลกระทบจากข่าวการล้มละลาย และความผันผวนแทบจะเป็นรายวัน แต่การยอมรับ crypto ที่เพิ่มมากขึ้นนั้น ดูเหมือนจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็วในระดับโลก
แม้ว่า ตลาด crypto จะถูกแรงกดดันจากข่าวด้านลบต่าง ๆ ตลอดทั้งปี 2022 อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความผันผวนและความโกลาหลทั้งหมด ก็มีข่าวเชิงบวกมากมายปรากฏขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการยอมรับทั่วโลก ของสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ crypto โดยทั่วไป
เมื่อมองย้อนกลับไปในปี 2022 เหตุการณ์ดังต่อไปนี้นับเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญ ที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมคริปโตในปีที่แล้ว ที่ส่งผลให้เกิดการยอมรับ Crypto เพิ่มมากขึ้น
เครือข่าย Polygon มีจำนวน address มากถึง 200 ล้าน แม้ว่าจะมีความท้าทายในปี 2022
แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนทางการเงิน ปกคลุม ตลาด crypto ตั้งแต่ปลายปี 2021 แต่ Polygon ซึ่งเป็นโซลูชันการปรับขนาดเลเยอร์ 2 ที่ทำงานร่วมกับบล็อกเชน Ethereum ช่วยให้ทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2022 เมื่อถึงจุดนี้ จำนวน adrress ที่ไม่ซ้ำกันบนเครือข่าย Polygon ก็ทะลุ 200 ล้านไปแล้ว ซึ่งทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ที่ 205,420,908 เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม
นอกจากนี้ ระบบนิเวศของเครือข่าย Polygon ยังได้เห็นจำนวน address ที่ไม่ซ้ำกัน เพิ่มขึ้นถึง 8,783,568 ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคมถึง 31 ธันวาคม ซึ่งบ่งชี้ว่าในเดือนสุดท้ายของปี 2022 เพียงเดือนเดียว มีจำนวน address ใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย Polygon โดยเฉลี่ย 283,340 รายการต่อวัน นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงว่า จำนวนธุรกรรมที่เกิดขึ้นภายในเครือข่าย ยังคงอยู่ที่ประมาณ 3 ล้าน รายการ

การเติบโตของจำนวน address บน Polygon ตลอดปี 2022 ที่มา: PolygonScan
ล่าสุด โครงการ proof-of-stake ได้ประกาศเปิดตัวเครือข่ายทดสอบขั้นสุดท้าย ซึ่งเป็นการปรับปรุงระบบ Ethereum Virtual Machine ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี zero-knowledge
แบรนด์หลักยังคงเข้าสู่พื้นที่ Web3
ตลาด nonfungible token (NFT) และอุตสาหกรรม metaverse ยังคงกระตุ้นความสนใจของแบรนด์แฟชั่น และแบรนด์หรู หลายแบรนด์
ตัวอย่างเช่น ในเดือนตุลาคม Rolex นาฬิกาแบรนด์หรูยอดนิยมที่มีอยู่ทั่วโลก ได้ทำการยื่นขอเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวข้องกับ NFT หลายรายการ และยังมีอีกหนึ่งรายการเพื่อเป็นกระดานเทรดสกุลเงินดิจิทัล, ยักษ์ใหญ่ด้านสินค้ากีฬายอดนิยม อย่าง Reebok, Nike และ Adidas ก็เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน
Nike เปิดตัว metaverse ที่ใช้ชื่อว่า .Swoosh ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดใช้งาน Web3 ที่ซึ่งลูกค้าจะสามารถซื้อและขายผลิตภัณฑ์เสมือนจริงได้ มีรายงานว่า แพลตฟอร์มดังกล่าว จะมุ่งไปที่การสร้างชุมชน และใช้ในการเปิดตัวคอลเลกชันเสมือนจริงชุดแรกของบริษัท ซึ่งประกอบด้วยรองเท้า เครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับ
ในช่วงเดือน มกราคม 2023 เมื่อเปิดตัว ทางแพลตฟอร์มจะอนุญาตให้ใช้เฉพาะเงินสดเท่านั้น ไม่ใช้สกุลเงินดิจิทัล โดยธุรกรรมทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้ในเครือข่าย Polygon
เมื่อปีที่แล้ว Adidas ได้เปิดตัวอุปกรณ์เสมือนจริงชุดใหม่ พร้อมกับเครื่องมือแต่งภาพ เพื่อพิสูจน์ว่า อวาตาร์ จากคอลเลกชั่นพาร์ทเนอร์ที่เข้ากันได้ อย่าง Bored Ape Yacht Club สามารถแต่งตัวด้วยอุปกรณ์ของ adidas ได้
ด้าน Reebok ได้ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าจำนวนมาก ในสหรัฐอเมริกา สำหรับเครื่องแต่งกายเสมือนจริงหลายประเภท รวมถึงรองเท้า หมวก และอุปกรณ์กีฬา
และล่าสุด ผู้ผลิตรถยนต์หรู BMW ประกาศว่า บริษัทได้ตัดสินใจเข้าสู่การแข่งขันในพื้นที่ metaverse ด้วยการขอเครื่องหมายการค้าสำหรับโลโก้ที่จะใช้กับยานพาหนะเสมือนจริง ที่กำลังจะมาถึง รวมถึงใช้โลโก้กับการค้าปลีกดิจิทัล และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ปริมาณรวมของเหรียญ Ether ที่ล็อกไว้ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตลอดปี 2022 ปริมาณรวมของเหรียญ ETH ที่ถูกล็อคไว้ในระบบนิเวศ Ethereum นั้น เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ ถึง มิถุนายน จำนวน ETH ที่ล็อกไว้ เพิ่มขึ้นจากที่เคยมีเพียง 9 ล้าน เป็นเกือบ 13 ล้าน ดังที่เห็นจากกราฟด้านล่าง มีแนวโน้มที่สูงขึ้น ตั้งแต่ระหว่างเดือน มิถุนายน ถึง กันยายน ก่อนที่ Ethereum จะเปลี่ยนระบบฉันทามติไปเป็น proof-of-stake

มูลค่ารวมของ ETH ที่ถูกล็อกไว้ ที่มา: CryptoQuant
ในบริบทของเครือข่าย Ethereum การ staking หมายถึง การฝาก 32 ETH เพื่อล็อกไว้ในเครือข่าย ซึ่งช่วยให้ผู้ฝากได้รับสิทธิ์ในการตรวจสอบความถูกต้องของระบบ(โหนด) และทำให้ผู้ฝากสามารถรับ ETH เป็นรางวัลเพิ่มเติมได้
ในฐานะผู้ตรวจสอบความถูกต้อง ผู้เข้าร่วมเป็นโหนด ต้องทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น จัดเก็บข้อมูล ประมวลผลธุรกรรม และเพิ่มบล็อกใหม่ลงในบล็อกเชน เพื่อช่วยปกป้องเครือข่ายสำหรับผู้เข้าร่วมทั้งหมด
Meta ผสานรวมการสนับสนุน NFT
เมื่อต้นเดือน พฤษภาคม ทาง Instagram ซึ่งเป็นสื่อโซเชียลยักษ์ใหญ่ ได้เปิดเผยโปรแกรมการทดสอบสำหรับการแชร์ NFT สำหรับผู้ใช้ที่ถูกเลือกทั่วสหรัฐอเมริกา
ในเวลานั้น ตัวแทนของบริษัทระบุว่า จะสร้างโอกาสในการสร้างรายได้มากขึ้น สำหรับเหล่า อินฟลูเอนเซอร์ ที่อยู่บนแพลตฟอร์ม พร้อมกับเป็นการแนะนำ NFT ให้เป็นที่รู้จักในฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้น ไม่กี่เดือนต่อมา ในเดือน สิงหาคม Instagram ก็ได้ตัดสินใจ ขยายการดำเนินงาน NFT ไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วทั้งแอฟริกา อเมริกาเหนือ และเอเชีย
Meta ยังประกาศอีกว่า จะรวมการสนับสนุนโครงการของพันธมิตรที่เข้าร่วม อย่าง Coinbase Wallet และ Dapper Wallet พร้อมกับขยายข้อเสนอ NFT ไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักอื่น ๆ ของ Facebook
ต่อมาในเดือน พฤศจิกายน ทีมพัฒนาของ Instagram ได้ประกาศว่า กำลังทดสอบความสามารถในการสร้างและขาย NFT กับ กลุ่มผู้สร้างดิจิทัล ที่ได้รับการคัดเลือก โดยฟีเจอร์นี้จะทำงานบนเครือข่าย Polygon โดยผู้สร้างและนักสะสม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในขั้นต้น
โปรแกรม Loyalty บน บล็อกเชนของสตาร์บัคส์ เริ่มใช้งานจริง
ในเดือน กันยายน Starbucks ได้ประกาศเปิดตัว Starbucks Odyssey ซึ่งเป็นโปรแกรม Loyalty บนบล็อกเชนและชุมชน NFT ให้กับกลุ่มผู้ทดสอบในสหรัฐอเมริกา ความคิดริเริ่มนี้ สร้างขึ้นจากโปรแกรม Loyalty ที่มีอยู่ของบริษัท แต่มาใช้โครงสร้างแบบกระจายศูนย์ ที่สร้างขึ้นบนบล็อคเชน Polygon
Starbucks Odyssey เป็นโปรแกรมรางวัล ที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับสิทธิพิเศษและมีขอบเขตที่ขยายออกไปนอกเหนือขอบเขตของการรับเครื่องดื่มฟรี Odyssey ช่วยให้ลูกค้าโต้ตอบกับข้อเสนอ ในรูปแบบเกมที่หลากหลาย ช่วยให้ลูกค้าได้รับ NFT (เรียกว่า Journey Stamps) โดยสินทรัพย์เหล่านี้ สามารถซื้อขายและแลกคืนได้ในภายหลัง
VCs ยังคงเทเงินเข้าสู่ระบบนิเวศ Web3
ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2022 Animoca Brands ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังโครงการคริปโต ที่ประสบความสำเร็จหลายโครงการ รวมถึง The Sandbox ได้สร้างกองทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อลงทุนในโครงการ metaverse ต่างๆ
Yat Siu ผู้ร่วมก่อตั้ง Animoca กล่าวว่า กองทุนจะกระตุ้นยูทิลิตี้ของตลาดเกม metaverse และ บล็อกเชน เขากล่าวว่า “ผู้คนจำนวนมาก เข้าร่วม crypto ทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกม” และเสริมว่า “ฉันหวังว่าสิ่งนี้ จะผลักดันสถานการณ์ ที่ทรัพย์สินดิจิทัลจะได้รับการยอมรับ เหมือนทรัพย์สินทางกายภาพในระบบกฎหมาย”
นอกจาก Animoca แล้ว บริษัทยอดนิยมอื่น ๆ ที่ลงทุนมหาศาลในเศรษฐกิจ metaverse ที่กำลังขยายตัว ได้แก่ Daesung Private Equity บริษัทร่วมทุนยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ โดยทางบริษัทเพิ่งประกาศว่าได้จัดสรรเงินจำนวน 110 วอนเกาหลีใต้ (83.9 ล้านดอลลาร์) ให้กับกองทุนที่มุ่งเน้น เป็นศูนย์กลางของ metaverse
JPMorgan ร่วมมือกับ Ripple
JPMorgan Chase ธนาคารยักษ์ใหญ่ของอเมริกา ได้เข้าร่วมกับพันธมิตรหลักของ Ripple Al Fardan Exchange ในปี 2022 เพื่อให้ลูกค้าทั่วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าถึงบริการชำระธุรกรรม และโอนเงินที่รวดเร็วขึ้น
ลูกค้าของ Al Fardan จะสามารถทำธุรกรรม crypto ผ่านสินทรัพย์เงิน fiat ที่เป็นที่นิยมมากมาย รวมถึงดอลลาร์สหรัฐ ปอนด์อังกฤษ และยูโร
แน่นอนเลยทีเดียว เราต้องไม่ลืมว่า การร่วมมือกันครั้งนี้ เกิดขึ้นได้ แม้ว่าทาง Ripple จะตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์การถูกฟ้องร้อง กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ของสหรัฐอเมริกา หน่วยงานกำกับดูแล ยังคงกล่าวหาว่าข้อเสนอ crypto ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ XRP นั้น เป็นหลักทรัพย์ ดังนั้นจึงอยู่ภายใต้กฎหมาย และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดังกล่าว
ผู้ใช้ Reddit สร้างภาพ อวาตาร์ เป็น NFT มากกว่า 5 ล้านภาพ
เว็บไซต์แชร์โซเชียล Reddit แสดงให้เห็นว่า ผู้ใช้ยังคงใช้ NFT อย่างต่อเนื่องในปีที่แล้ว แม้ว่ายอดขายจะลดลงอย่างมากก็ตาม ความคิดริเริ่มที่ถูกรันอยู่บน Polygon นี้ มีการคาดกันว่า มีการสร้าง NFT มากกว่า 5 ล้านชิ้นแล้ว จนถึงปัจจุบัน
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการกล่าวถึงว่า อวาตาร์ เหล่านี้ไม่ได้กระจุกตัวอยู่กับนักสะสม NFT มูลค่าสูง (ala whales) แต่มีการกระจายออกไปใน กระเป๋าเงินที่ไม่ซ้ำกัน มากกว่า 4 ล้านกระเป๋า ซึ่ง NFTs ที่สร้างใหม่ทั้งหมดดังกล่าว ได้ถูกเสนอให้กับ ผู้ใช้ที่มีมูลค่าสูงของ Reddit โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
Tiffany เข้าสู่วงการคริปโต
Tiffany & Co. ผู้ค้าปลีกเครื่องประดับหรูหรา และสินค้าเฉพาะทาง ได้ประกาศในเดือน สิงหาคม ว่ากำลังจะเปิดตัวคอลเลกชั่น NFT จำนวนจำกัด ที่เรียกว่า NFTiff ซึ่งแต่ละคอลเลกชั่นจะวางจำหน่ายในราคาฐาน 30 ETH (ประมาณ 36,000 ดอลลาร์) โดยรวมแล้วมีการผลิต NFT ทั้งหมด 250 รายการ
เมื่อต้นเดือน มีนาคม Tiffany ได้ซื้อ Okapi NFT จาก Tom Sachs ด้วยมูลค่า 380,000 ดอลลาร์ ภาพนี้กลายเป็นรูปโปรไฟล์ Twitter ของบริษัทตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
การออกกฎหมายในเชิงบวก ยังคงได้รับแรงสนับสนุน
ปลายปี 2022 สภาคองเกรส ของบราซิล ได้อนุมัติร่างกฎหมาย เพื่อควบคุมการใช้สกุลเงินดิจิทัล สำหรับการชำระเงินรายวัน ภายในขอบเขตของตน ดังนั้น จึงอาจเป็นการส่งเสริมการยอมรับ crypto ในประเทศอเมริกาใต้ ร่างกฎหมายได้ระบุสถานะทางกฎหมาย สำหรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลสำหรับสินค้าและบริการ แต่ไม่ให้สถานะเป็นการชำระเงินตามกฎหมาย
ในทำนองเดียวกัน Abdellatif Jouahri ผู้ว่าการธนาคารกลางของโมร็อกโก – Bank Al-Maghrib (BAM) – ได้ประกาศว่า หน่วยงานกำกับดูแลหลักในประเทศของเขา จะสรุปกรอบการกำกับดูแล crypto ที่ครอบคลุมในไม่ช้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตลาดทุนโมร็อกโก และหน่วยงานกำกับดูแลการประกันภัยและสวัสดิการสังคม
Jouahri เปิดเผยว่า BAM ทำงานในเอกสารควบคู่ไปกับธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
ประเทศอื่นๆ ที่มีกฎเกณฑ์ที่เอื้ออำนวยในปี 2022 หรือกำลังวางแผนที่จะทำเช่นนั้นในอนาคตอันใกล้ ได้แก่ อินเดีย เยอรมนี ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร เป็นต้น
การยอมรับ Crypto พุ่งสูงขึ้นทั่ว MENA เอเชีย และละตินอเมริกา
จากการศึกษา ที่ดำเนินการโดยบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Chainalysis ภูมิภาคตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ (Middle East and North Africa : MENA) เป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดสำหรับการยอมรับสกุลเงินดิจิทัล เมื่อปีที่แล้ว
ระหว่างเดือน กรกฎาคม 2021 ถึง มิถุนายน 2022 ภูมิภาคนี้ มีจำนวนธุรกรรม crypto มูลค่า 566 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 49% จากปีก่อนหน้า โดยคิดเป็น เพิ่มขึ้น 40% ในยุโรป, 36% ทั่วอเมริกาเหนือ และ 35% ทั่วเอเชียกลางและใต้
ในทำนองเดียวกัน ละตินอเมริกาคิดเป็น 9.1% ของมูลค่าคริปโตทั้งหมดที่ได้รับระหว่างปี 2022 ซึ่งมีมูลค่าสะสมรวม 562 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่มีการเติบโต 40% ระหว่างไตรมาสที่ 3 ปี 2021 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2022 นอกจากนี้ ประเทศในละตินอเมริกาทั้งหมด 4 ประเทศ ยังได้เข้าสู่ ‘รายชื่อผู้ใช้ crypto ชั้นนำของ Chainalysis’
ปัจจุบัน เวียดนาม มีอัตราการยอมรับ crypto สูงที่สุดในโลก ตามมาด้วยฟิลิปปินส์และยูเครน ประเทศเกิดใหม่อื่นๆ ที่ครองดัชนีการยอมรับของ Chainalysis ในปี 2022 ได้แก่ อินเดีย บราซิล ไทย และปากีสถาน
ที่มา LINK