social media Decentralized

เมื่อเหล่าแพลตฟอร์ม social media กำลังตบเท้าเข้าสู่ Decentralized ไม่ว่าจะเป็น Twitter, Bluesky, Meta และอื่นๆ กำลังสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลแบบกระจายอำนาจ ด้วยการพยายามเชื่อมต่อกับคริปโตและบล็อกเชน

คนรัก Dogecoin มีความหวังเพราะ Elon Musk เป็นเจ้าของ Twitter, Kanye West ผู้เป็นมิตรกับคริปโต ก็เป็นเจ้าของ Parler และผู้ที่หลงใหลใน Bitcoin แบบสุดตัว อย่าง Jack Dorsey ก็สนับสนุน Bluesky ไปดูกันต่อเลย!

 

Elon Musk, Twitter, Dogecoin

และแล้ว Elon ก็ทำได้จริงๆ ราชานักทวีตข้อความเกี่ยวกับคริปโต ซึ่งมักจะทวีตอะไรเกี่ยวกับ Dogecoin แล้วก็มีผลต่อการพุ่งขึ้นของราคาซ้ำแล้วซ้ำเล่า(เอ๊ะ! หรือว่า”ปั่น”) เขาเคยทวีต “pedo guy” ในเดือนกรกฎาคมปี 2018 เกี่ยวกับนักประดาน้ำในถ้ำชาวอังกฤษ ส่งผลให้เขาถูกนำตัวขึ้นศาลในข้อหาหมิ่นประมาท (แต่เขาก็ชนะคดี) และอีกทวีต “การระดมทุนอย่างปลอดภัย” ในเดือนสิงหาคม 2018 นำไปสู่การโดนตั้งข้อหาฉ้อโกงหลักทรัพย์จากสำนักงาน ก.ล.ต. (ครั้งนี้เขาถูกปรับ 20 ล้านดอลลาร์) ซึ่งปัจจุบัน Elon เป็นเจ้าของ Twitter เต็มตัว

ดีลนี้ได้เริ่มต้นขึ้นก่อนหน้านี้เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ด้วยข้อเสนอเดิมของ Musk ที่มีมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ มีคนคิดว่า “Musk อาจจะไม่ซื้อ Twitter แต่ผู้สนับสนุนคริปโตควรให้กำลังใจ Musk หากพวกเขาต้องการเห็น Twitter เข้ากันได้กับคริปโตจริงๆ”

เดิมที Musk กล่าวว่าข้อความทั้งแบบสาธารณะและแบบส่วนตัว (ที่รั่วไหลออกมา) เขาตั้งใจที่จะวางแพลตฟอร์ม Twitter ไว้บนเครือข่าย(on-chain)และทำให้เป็นโอเพ่นซอร์ส มีการใช้ Dogecoin ในการชำระเงินค่าบริการ Twitter และติดตามบอทสแปม

แต่ถัดจากนั้น เขากลับกล่าวว่า “บล็อกเชน Twitter นั้นเป็นไปไม่ได้ เครือข่ายเพียร์ทูเพียร์ไม่สามารถรองรับแบนด์วิดท์และเวลาแฝงได้ เว้นแต่ ‘เพียร์’ เหล่านั้นจะมีจำนวนมหึมาจริงๆ จึงเป็นการทำลายวัตถุประสงค์ของเครือข่ายแบบกระจายอำนาจ”

Binance ซึ่งเป็นกระดานเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็ได้สนับสนุน Musk ในการปิดดีลซื้อ Twitter สำเร็จ ด้วยมูลค่าการลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ และกำลัง “สร้างทีมภายในเพื่อมุ่งเน้นไปที่วิธีที่บล็อกเชนและคริปโตจะเป็นประโยชน์ต่อ Twitter”

โดยไม่สนถึงความคิดเห็นของใครต่อใครเกี่ยวกับ Musk ใครก็ตามที่เชื่อในความเป็นไปได้ในอนาคตของโซลูชันคริปโตและบล็อกเชน และต้องการเห็นการยอมรับจำนวนมากขึ้น ก็น่าจะรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ผู้ใช้บางคนที่โวยวายต่อต้านการเป็นเจ้าของ Twitter ของ Elon โดยขู่ว่าพวกเขาจะเลิกใช้ Twitter ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้จะเลิกจริงๆ การประชดก็คือถ้าพวกเขาจะเลิกใช้ Twitter แล้วไปใช้แพลตฟอร์มอื่นๆ ก็มีการเชื่อมต่อกับคริปโตอยู่ดี

 

Facebook >>>Meta

อย่าง Facebook ที่ทุ่มเทให้กับ metaverse มากจนถึงกับเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta และแม้หลังจากที่ Reality Labs แผนก metaverse ของบริษัทจะขาดทุนถึง 3,600 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 3 ส่งผลให้หุ้นร่วงลงตามมามากกว่า 25% ทำให้ต้องลดกลยุทธ์ลงเป็นสองเท่า ทำให้ยังไม่ชัดเจนว่า metaverse ของ Meta จะใช้คริปโตและบล็อกเชนได้มากน้อยเพียงใด แต่อย่าลืมว่า Meta กำลังพยายามสร้าง

 

Bluesky, Jack Dorsey

Jack Dorsey คนสนิทของ Musk ที่อาจแนะนำเขาเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำบน Twitter ได้ลาออกจาก Twitter เพื่อทุ่มเทให้กับบริษัท Block ซึ่งเดิมคือ Square ด้วยเหตุผลที่เหมือนกับ Facebook คือตั้งใจที่จะพิสูจน์ความมุ่งมั่นต่อสาธารณชนในด้านเทคโนโลยีใหม่จนถึงกับเปลี่ยนชื่อองค์กร แต่ความพยายามของ Dorseyในการสร้าง “โซเชียลมีเดียแบบกระจายอำนาจ” คือการแยกตัวออกจาก Twitter เพื่อมาสร้าง แพลตฟอร์ม Bluesky โดยเพิ่งเปิดตัวเว็บไซต์ในโปรโตคอล AT (ย่อมาจาก Authenticated Transport) และเตรียมสร้างแอป Bluesky ซึ่งทางทีมกำหนดกรอบให้เป็น “เบราว์เซอร์” สำหรับการเข้าถึง AT Protocol

Dorsey กำลังนำ Twitter ไปใช้กับโปรโตคอล อย่าเรียกมันว่า บล็อกเชน(หรือ Web3 เนื่องจาก Dorsey ไม่เชื่อในสิ่งนั้น) ในชื่อ Bluesky นั่นเอง

Parler, Kanye West

แม้แต่ Kanye West ที่เข้าซื้อ Parler ซึ่งเป็นแอพโซเชียลมีเดียที่ดึงดูดผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ หลายล้านคน Parler ได้เปิดตัวตลาด NFT ในเดือนมีนาคมที่เรียกว่า DeepRedSky ซึ่งเปิดตัวด้วยคอลเลกชัน Trump NFT ซึ่ง Kanye เองก็เป็นผู้ที่ชื่นชม Bitcoin และเพิ่งถูกพบว่าเขาสวมหมวก Satoshi Nakamoto

 

Discord

แพลตฟอร์ม Discord ถอยห่างออกจากการรวมเข้ากับกระเป๋าเงินคริปโต เนื่องจากความไม่พอใจจากนักเล่นเกม แต่ Discord ก็ยังคงเป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับ DAO ซึ่งเป็นองค์กรคริปโตที่ใช้ดำเนินการลงคะแนนเสียงของชุมชน

 

Mastodon

Mastodon ซึ่งเป็น “แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบกระจายอำนาจ” ซึ่งเปิดตัวในปี 2016 ใช้เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์โอเพนซอร์ซ ก็มีผู้สมัครใหม่ถึง 30,000 รายในวันที่ Musk ซื้อ Twitter

 

แม้ว่าจะมีแอพบางตัวที่ได้กล่าวไป บอกว่าพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคริปโต แต่ก็น่าประหลาดใจที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจำนวนมากกำลังมองหาการใช้การกระจายอำนาจ การเรียกร้องอุตสาหกรรมคริปโตในอุดมคติเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งานของพวกเขา หรือส่งเสริมให้มีการแชร์คำพูดได้โดยอิสระ

มากไปกว่าความน่าตื่นเต้นของแต่ละแพลตฟอร์มสื่อโซเชี่ยลที่สามารถใช้คริปโตจ่ายค่าบริการต่างๆบนแพลตฟอร์มได้ ก็คือ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดมี “นักฆ่า แอพ” แอพที่เป็นสื่อโซเชี่ยลที่ใช้คริปโตและบล็อกเชนแอพใดจะชนะ และกลายเป็นแอพจัตุรัสกลางเมืองโซเชียลมีเดียที่เหนือกว่า

ที่มา LINK

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *