Polygon (MATIC) พุ่งขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ ใน 24 ชั่วโมง แม้ว่าตลาดคริปโตจะอยู่ในทะเลสีแดง และนี่คือเหตุผล

Polygon (MATIC) พุ่งขึ้น ท่ามกลางตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังร่วงลง ถือเป็นหนึ่งในสกุลเงินคริปโตที่มอบผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนที่กำลังทุกข์ยาก แม้ว่าตลาดคริปโตภาพใหญ่จะยังอยู่ในช่วงขาลง

ในช่วงเวลาแออัดของวันที่ 7 พฤศจิกายน ราคา MATIC ซื้อขายกันที่ $1.20 โดย Polygon (MATIC) พุ่งขึ้น เกือบ 5% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในกราฟรายสัปดาห์ ราคาของเหรียญได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ซึ่งถือได้ว่าเป็นกำไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดา 100 อันดับแรกของสกุลเงินคริปโต ตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด

ชาร์ตราคา Polygon (MATIC) พุ่งชึ้น
100 อันดับ สกุลเงินคริปโตชั้นนำที่ทำกำไร ที่มา : CoinMarketCap

นอกจากนี้ สกุลเงินดิจิทัลอันดับที่ 11 ตามมูลค่าราคาตลาด ยังประสบกับแรงกดดันในการซื้อ เพื่อบันทึกการไหลเข้าของเงินทุนรายสัปดาห์ประมาณ 2.43 พันล้านดอลลาร์

กราฟราคา Polygon (MATIC) พุ่งขึ้น
กราฟราคา MATIC 7 วัน ที่มา : CoinMarketCap

นักลงทุนคริปโต มีแนวโน้มลงทุนใน MATIC ลดลง

นอกจากนี้ แม้ MATIC จะให้ผลกำไรเพิ่มขึ้น แต่ชุมชน Polygon ก็ดูเหมือนจะคาดการณ์ว่า ราคาของเหรียญจะยังคงเป็นขาลงในระยะยาว โดยทางชุมชน CoinMarketCap มีการคาดการณ์ว่า MATIC จะซื้อขายที่ราคากลางที่ $0.9025 ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2022

แม้ว่า altcoins จำนวนมาก จะปรับตัวขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ประสิทธิภาพตลาดของ MATIC นั้นส่วนใหญ่มาจากกิจกรรมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น โดยสถาบันต่างๆ ได้เลือกใช้เชน Polygon ซึ่งเป็น sidechain บน Ethereum (ETH) เข้ากับระบบนิเวศของพวกเขามากขึ้น

ตัวอย่างเช่น โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง Meta เพิ่งเลือกที่จะเปิดเผยชุดเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้ Instagram สามารถสร้างและขาย NFT ที่ขับเคลื่อนด้วยเครือข่าย Polygon

ในเวลาเดียวกัน JP Morgan ยักษ์ใหญ่ด้านการธนาคารเปิดเผยว่า ได้ทำธุรกรรมข้ามพรมแดนสำเร็จเป็นครั้งแรก โดยใช้การกระจายอำนาจทางการเงิน (DeFi) บนเครือข่ายเลเยอร์ 2 ซึ่งก็คือ Polygon

นอกจาก Meta และ JPMorgan บริษัทกระแสหลักหลายแห่งได้เลือกเครือข่าย Polygon สำหรับการดำเนินการต่างๆ ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น Coca-Cola, Reddit, DraftKings, Quadrata และ Starbucks เปิดใช้งาน NFTs บนเครือข่าย

 

MATIC จะเป็นอย่างไรต่อไป

ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ ซึ่งมีอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยสูง ผลการดำเนินงานของ MATIC บ่งชี้ว่า นักลงทุนชอบสินทรัพย์ที่มีการพัฒนาพื้นฐานเชิงบวกมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้เกิดการยอมรับในวงกว้าง

ที่น่าสนใจก็คือ เป้าหมายของ Polygon ยังเป็นไปตามความมุ่งมั่นล่าสุดของผู้ก่อตั้งเครือข่าย ในการยกระดับ MATIC ให้อยู่ใกล้ชิดกับ Bitcoin (BTC) และ Ethereum โดย Sandeep Nailwal ผู้ร่วมก่อตั้ง Polygon กล่าวว่าเขาเชื่อว่า MATIC ควรอยู่ในอันดับที่ 3 ของสกุลเงินคริปโต

ด้วยศักยภาพของ Polygon ที่สามารถเพิ่มมูลค่า พร้อมกับการยอมรับของสถาบัน เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าสินทรัพย์จะสามารถรักษาระดับได้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความเสี่ยงในระดับมหภาคที่กำลังดำเนินอยู่

ที่มา LINK

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *