
ภาพจาก: Getty Images
Privacy Coins คืออะไร? และถูกกฎหมายหรือไม่?
การควบคุม Privacy Coins หรือ เหรียญความเป็นส่วนตัว ยังคงมีความสำคัญสูงสุดสำหรับหน่วยงานทางการเงิน เนื่องจากพวกเขาพยายามที่จะควบคุมกิจกรรมการซื้อขาย crypto ที่ผิดกฎหมาย
Privacy Coins คืออะไร?
Privacy coins คือ คริปโตเคอเรนซี ที่รักษาความเป็นนิรนาม โดยปิดบังการไหลเวียนของเงินในเครือข่ายของพวกเขา ทำให้ยากต่อการค้นหาว่าใครส่งอะไรถึงใคร ซึ่งมีประโยชน์หากคุณไม่ต้องการให้ใครสอดส่องกิจกรรมทางการเงินของคุณ
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2022 กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา ได้สั่งห้ามลูกค้าในสหรัฐอเมริกาไม่ให้ใช้ Tornado Cash ซึ่งเป็นโปรโตคอลมิกเซอร์ แบบกระจายอำนาจ ที่เปิดใช้งานการทำธุรกรรมส่วนตัวบน Ethereum ทำให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับโปรโตคอลความเป็นส่วนตัวและ Privacy coins ซึ่งในบทความนี้จะตอบคำถามเกี่ยวกับ Privacy coins และวิธีการทำงาน
Privacy coins (เหรียญความเป็นส่วนตัว) ทำงานอย่างไร?
หากเรานำเทคโนโลยีรักษาความเป็นส่วนตัวออกไปก่อน จะเห็นว่า Privacy coins นั้นก็ดูค่อนข้างคล้ายกับเหรียญ เช่น bitcoin เพราะมันก็ทำงานบนบล็อกเชน, มีบัญชีแยกประเภทที่กระจายอำนาจ และได้รับการดูแลโดยเครือข่ายของผู้ตรวจสอบที่ไม่ระบุชื่อ แต่จะมีการใช้เทคนิคความเป็นส่วนตัวขั้นสูง ซึ่งสิ่งนี้เองที่แยก Privacy coins ออกจากเหรียญอื่น ๆ ซึ่ง Privacy coins ที่ใหญ่ที่สุดตามมูลค่าตลาดคือ Zcash และ Monero
Dash ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นเหรียญที่เน้นความเป็นส่วนตัว โดยก่อนหน้านั้นใช้ชื่อว่า “Darkcoin” แต่ได้เปลี่ยนชื่อในปี 2015 และเลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่การชำระเงินแบบดิจิทัลแทน แม้ว่าโปรเจกต์ Dash นี้จะมีฟีเจอร์ coin joining แต่ CEO Ryan Taylor ยืนยันว่า Dash ไม่ควรถูกตีความว่าเป็น Privacy coin
Monero เป็นหนึ่งใน Privacy coins เพียงตัวเดียวที่ถูกตั้งค่าให้เป็น Privacy coin ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งแตกต่างจาก Zcash คุณไม่สามารถปิดฟังก์ชันความเป็นส่วนตัวได้ ในการซ่อนข้อมูลธุรกรรม Monero จะมีการใช้ “stealth addresses” ซึ่งเป็นที่อยู่ลับแบบใช้ครั้งเดียว สำหรับแต่ละธุรกรรม มีการใช้ “ring signatures” ในการจัดกลุ่มธุรกรรมของแท้กับธุรกรรม “decoy” แบบเก่า เพื่อทำให้ยากต่อการพิจารณาว่า ธุรกรรมใดถูกต้องตามกฎหมาย และ ใช้ “ringCT” ในการซ่อนจำนวน Monero ที่ส่งในธุรกรรม
Zcash เป็น Privacy coin ที่ช่วยให้การทำธุรกรรมโปร่งใส ธุรกรรมส่วนบุคคลจะใช้การพิสูจน์ด้วยเทคโนโลยี zero-knowledge: ประเภทของการคำนวณทางคณิตศาสตร์ ที่ส่งสัญญาณไปยังเครือข่ายว่า มีบางสิ่งที่เป็นจริงอย่างแน่นอน เช่น ความถูกต้องของการทำธุรกรรม โดยไม่ต้องเผยแพร่ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกรรม อย่างเช่น ที่อยู่และจำนวนเงินในการทำธุรกรรมนั้น
Privacy coins ถูกกฎหมายหรือไม่?
Privacy coins ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก โดยมีการเสนอราคาเพื่อปราบปรามตลาดมืด ที่ขับเคลื่อนโดย Privacy coins ออสเตรเลียและเกาหลีใต้สั่งห้ามไม่ให้มีการลิสต์ Privacy coins บนกระดานเทรดคริปโต ในขณะที่ญี่ปุ่นสั่งแบน Privacy coins ทั้งหมด
การเข้มงวดของกฎหมาย “know your customer” หรือ KYC ที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแลการต่อต้านการฟอกเงิน อาจทำให้การใช้ Privacy coins นั้นยากขึ้น ซึ่งรวมถึงกฎการเดินทางของ FATF และคำสั่ง AMLD-5 ที่กำหนดโดยสหภาพยุโรป
bitcoin จัดเป็น Privacy coins หรือไม่?
คุณอาจเคยได้ยินว่า หนึ่งในข้อดีที่สำคัญของการใช้ bitcoin คือการไม่เปิดเผยตัวตน และนี่คือเหตุผลว่าทำไมช่วงปีแรก ๆ ของ bitcoin ส่วนใหญ่ จึงถูกใช้ไปกับการขับเคลื่อนกลุ่มตลาด ‘เว็บมืด’ และเป็นวิธีการชำระเงินที่อาชญากรเลือก
แต่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม บล็อกเชนของ Bitcoin เป็นแบบสาธารณะ หมายความว่าคุณสามารถดูธุรกรรมทั้งหมดที่เคยทำโดยที่อยู่ใด ๆ บนเครือข่ายได้ตลอดเวลา บนตัวสำรวจบล็อกเชนสาธารณะ
โปรโตคอล Bitcoin เป็นแบบเดียวกับเครือข่ายบล็อกเชนส่วนใหญ่ ที่ไม่รักษาความเป็นนิรนาม แต่จะรักษานามแฝง เว้นแต่จะมีคนเปิดเผยว่า ตัวเองเป็นเจ้าของ address (ที่อยู่กระเป๋า) นั้น ตามชุดตัวอักษรและตัวเลขของ address แต่จริง ๆ แล้ว คุณไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นเจ้าของ address
ที่กล่าวว่า บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนหลายแห่ง อย่างเช่น Chainalysis ได้ผลิตเครื่องมือที่ช่วยจำกัดการค้นหาให้แคบลงได้อย่างมาก โดยเครื่องมือเหล่านี้จะมองหาความสัมพันธ์ในการทำธุรกรรม ที่ช่วยให้บริษัทและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย สามารถติดตามอาชญากรได้
การอัปเกรดล่าสุด ของ Bitcoin ได้มีการเปิดตัวโปรโตคอล ที่เรียกว่า Taproot ซึ่งทำให้สามารถเพิ่มความเป็นส่วนตัวของธุรกรรมบางอย่างได้ โดยอนุญาตให้ธุรกรรมสัญญาอัจฉริยะที่ซับซ้อน ดูเหมือนธุรกรรม “ปกติ” อย่างไรก็ตาม จนกว่า Taproot จะถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายและรวมเข้าด้วยกันโดยนักพัฒนา ในตอนนี้ผลกระทบของมันยังมีไม่มาก
ในขณะเดียวกัน วิธีหนึ่งในการเพิ่มความเป็นส่วนตัวของธุรกรรม Bitcoin คือการใช้ mixer หรือ tumbler เมื่อคุณส่งบิตคอยน์ผ่านแพลตฟอร์ม mixer บริการผสม จะทำให้บิตคอยน์ของคุณปะปนกับบิตคอยน์ของผู้อื่นที่ต้องการใช้ mixer ในเวลาเดียวกัน จากนั้นผู้ให้บริการ จะส่ง bitcoins แบบสุ่มในจำนวนที่เหมาะสมไปยังผู้รับที่คุณต้องการ เนื่องจากบิตคอยน์ของคุณปะปนกับของคนอื่น จึงเป็นเรื่องยากที่จะระบุได้ว่าใครส่งอะไรให้ใคร ตัวอย่างยอดนิยมของแพลตฟอร์ม mixer ได้แก่ CoinJoin และ CoinSwap
Privacy coins มีความเป็นส่วนตัว จริงหรือ?
เนื่องจากมีการพัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา และในอนาคตคอมพิวเตอร์อาจมีประสิทธิภาพมากพอ ที่จะถอดรหัสวิธีการเข้ารหัสสมัยใหม่ได้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่า Privacy coins นั้นให้ความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง
หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายกระตือรือร้นที่จะถอดรหัสธุรกรรมของเครือข่าย Monero เพื่อเปิดเผยอาชญากรที่เข้ามาใช้เครือข่าย ในเดือนกันยายน 2020 IRS เสนอเงิน $625,000 ให้กับใครก็ตาม ที่สามารถถอดรหัสเครือข่ายได้ บริษัทที่ชื่อว่า CipherTrace ได้ยื่นจดสิทธิบัตรโดยอ้างว่าได้ถอดรหัสเครือข่าย Monero ได้แล้ว แต่บริษัทในเครือ Monero โต้แย้งคำกล่าวอ้างดังกล่าว
ที่มา LINK