Tether (USDT) เป็นเหรียญ Stablecoin ที่ตรึงมูลค่ากับ สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐตัวแรก และใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ในชื่อ Realcoin ซึ่งเป็นโทเคนสกุลเงินดิจิทัลชั้นที่ 2 ที่สร้างขึ้นบน บล็อคเชน ของ Bitcoin ผ่านการใช้แพลตฟอร์ม Omni ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น USTether และสุดท้ายเป็น USDT
โดย 3 ผู้ก่อตั้ง Brock Pierce, Reeve Collins และ Craig Sellars ภายใต้ชื่อบริษัท Tether Limited ซึ่งอยู่ในฮ่องกง โดยแนวคิดของบริษัทคือ การทำให้เงินของรัฐบาลเข้ากันได้ กับสินทรัพย์คริปโต ซึ่งซื้อขายกันได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
โปรโตคอล Omni Layer ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม ที่ใช้สำหรับสร้าง และซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล บนบล็อกเชนของ Bitcoin เทคโนโลยีนี้ช่วยให้สามารถสร้าง และเผาโทเคน USDT ตามจำนวนที่อยู่ภายใต้การดูแล นอกจากนี้ยังสามารถติดตามและรายงานการหมุนเวียนของ USDT ผ่านโปรโตคอลได้อีกด้วย
บัญชีแยกประเภทของ USDT ถูกเก็บไว้ในบล็อคเชน Bitcoin ด้วย Omni และ Omni Explorer อนุญาตให้ผู้ใช้ดูธุรกรรม ที่ตรวจสอบแล้ว ของพวกเขาได้
USDT ไม่มีบล็อกเชนของตัวเอง แต่ทำงานเป็นโทเคนชั้นที่ 2 บนบล็อกเชน ของสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ
นอกเหนือจากบล็อกเชนของ Bitcoin แล้ว โทเคน USDT ยังสามารถทำงานได้บนบล็อกเชนของ Ethereum, EOS, Tron, Algorand, Bitcoin Cash และ OMG และได้รับการรักษาความปลอดภัย โดยอัลกอริธึมการแฮชที่เกี่ยวข้อง จนถึงปัจจุบัน ตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับ USDT อยู่บนบล็อกเชนของ Ethereum
การตรึงมูลค่ากับดอลล่าร์สหรัฐ (USD) ทำได้โดยการรักษาผลรวมเชิงพาณิชย์ เงินฝากที่ได้รับความไว้วางใจ เงินสด บันทึกซื้อคืนสำรอง และตั๋วเงินคลังในเงินสำรองที่เท่ากับมูลค่า USD กับจำนวน USDT ที่หมุนเวียน
วันนี้ Tether รองรับเหรียญ stablecoin 4 สกุล ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ (USDT), หยวนจีน (CNHT) และยูโร (EURT) รวมถึงเหรียญ stablecoin ที่รองรับ 1 ออนซ์ ทองคำ (XAUT)
Stablecoins ถูกใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง จากความผันผวนที่รุนแรงในบางครั้ง ของตลาดสกุลเงินดิจิทัล ที่สามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ 10-20% ภายในวันเดียว
ทำให้นักลงทุนใช้เป็นที่หลบภัยในช่วงที่มีความผันผวนสูง พวกเขาสามารถขายเหรียญคริปโตสกุลอื่นๆ แล้วถือไว้เป็น USDT โดยไม่ต้องถอนเป็นเงินสด ออกเป็นเงินดอลล่าร์ทั้งหมด
นอกจากนี้ USDT ยังช่วยให้การทำธุรกรรมต่างๆ เทียบเท่าดอลลาร์สหรัฐ เช่นในการโอนเงินระหว่างภูมิภาค ประเทศ และแม้แต่ทวีปผ่านบล็อคเชน ทำได้สะดวกรวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ
โดยไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางที่ช้า และมีราคาแพง เช่น ธนาคาร หรือผู้ให้บริการทางการเงิน ในปี 2020 USDT ยังคงเป็นเหรียญ stablecoin ที่ใหญ่ที่สุด และใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด
อย่างไรก็ตามการถือ USDT ก็มีข้อควรระวัง เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการโต้เถียงกันมากมายเกี่ยวกับความถูกต้อง ที่ทาง Tether อ้างว่าทุก ๆ โทเคน ที่สร้างออกมา จะมีดอลลาร์สหรัฐค้ำอยู่ 1:1
ซึ่งหลายคนแสดงความกังวล เกี่ยวกับข้อเท็จจริงเรื่องเงินสำรองนี้ เพราะทาง Tether ไม่มีการแสดงงบดุลที่ชัดเจน และขาดการตรวจสอบจากสาธารณะ
นอกจากนี้บริษัท จะไม่เปิดเผยกำหนดการออกโทเคน ล่วงหน้า แต่พวกเขาจะจัดทำรายงานความโปร่งใสรายวัน โดยระบุจำนวนรวม ของสินทรัพย์สำรอง และหนี้สิน ที่สอดคล้องกับปริมาณ USDT ที่หมุนเวียน
ดังนั้นปริมาณของโทเคน USDT จึงถูกจำกัดจำนวน ด้วยเงินสดสำรองของบริษัท
ปัจจุบันมีจำนวน USDT หมุนเวียนอยู่ที่ 67,550,404,113 USDT มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 3 จากสกุลเงินคริปโตที่มีมากกว่า 20,000 สกุล
อ้างอิง Kraken, Coinmarketcap
