การแฮ็ก, การหาประโยชน์ และการก่ออาชญากรรมยังคงเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโต ในความเป็นจริงสิ่งเหล่านี้ได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าตกใจ ปริมาณการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2022 ซึ่งเพิ่มขึ้น 40% จากปี 2021 โดยมีสาเหตุมาจาก “การเพิ่มขึ้นของธุรกรรมคริปโต ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ตกเป็นเป้าหมายของการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ”
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา (DOJ) เพิ่งเน้นย้ำว่า ขนาดของอาชญากรรมคริปโตนั้นเติบโตขึ้น “อย่างมีนัยสำคัญ” ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เป็นผลให้หน่วยงานกำลังมองหาการปราบปรามพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มดิจิทัล
Eun Young Choi ผู้อำนวยการทีมบังคับใช้คริปโตเคอเรนซีแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า หน่วยงานกำลังจับตามองไปที่บริษัทซื้อขายคริปโต ว่าพวกเขาก่ออาชญากรรมเองหรือปล่อยให้เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมุ่งเป้าไปที่ “mixers และ tumblers” ที่ปกปิดร่องรอยการทำธุรกรรม Choi กล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบันอย่างละเอียดถี่ถ้วนว่า
“เราเห็นขนาดและขอบเขตของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ฉันคิดว่านั่นเกิดขึ้นพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของการยอมรับโดยการพูดถึงจากสาธารณชนในวงกว้าง”
นอกจากนี้ Choi ยังกล่าวอีกว่า การตรวจสอบแพลตฟอร์มที่เพิ่มขึ้นจะ “ส่งข้อความยับยั้ง” ไปยังธุรกิจที่ละเมิดกฎ หากบริษัทใด “มีส่วนแบ่งการตลาดที่สำคัญส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขากำลังอวดอ้างกฎหมายอาญาของสหรัฐฯ” DoJ จะไม่สามารถ “อยู่ในตำแหน่งที่เราให้ผ่านได้ เพราะพวกเขากำลังพูดว่า ‘เอาล่ะ ตอนนี้เราเติบโตขึ้นแล้ว ใหญ่เกินไปที่จะล้มเหลว’” เจ้าหน้าที่กล่าว
นอกเหนือจากแพลตฟอร์มซื้อขายและบริษัทคริปโตแล้ว DOJ ยังมุ่งเน้นไปที่การโจรกรรมและการแฮ็กที่เกี่ยวข้องกับ DeFi โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมุ่งโจมตีที่ “chain bridges”
ที่มา LINK
