
USDT USDC และ BUSD ความเหมือนที่แตกต่าง
Stablecoins ให้ประสบการณ์แก่นักลงทุน ทั้งในโลกดั้งเดิมและโลกของคริปโต โดยนำเสนอความเสถียรผ่านการสำรองเงิน fiat บวกกับความสามารถในการโอนเงินอย่างรวดเร็วบนเครือข่าย blockchain
Tether (USDT), USD Coin (USDC) และ Binance USD (BUSD) เป็นเหรียญ Stablecoin ที่เป็นที่รู้จักในพื้นที่คริปโต เหรียญ Stablecoin ทั้ง 3 ตัวนี้ ได้รับการค้ำประกันแบบ 1:1 ด้วยสกุลเงินสำรองที่เกี่ยวข้อง ทำให้เหรียญเหล่านี้มีเสถียรภาพตามมูลค่า อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการระหว่างทั้ง 3 เหรียญนี้ บทความนี้จะสำรวจความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง USDT, USDC และ BUSD
Stablecoins คืออะไร?
Stablecoins เป็นสินทรัพย์คริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งมีมูลค่าตามมูลค่าของสินทรัพย์ที่ค้ำประกัน เช่น เงินกระดาษ (fiat) หรือทองคำ เหรียญ Stablecoin ที่ได้รับการค้ำประกันมูลค่าจาก Fiat มักจะถูกตรึงไว้กับมูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐในอัตราส่วน 1:1
ดังที่ได้กล่าวไว้ Stablecoins ช่วยให้ผู้ใช้สะดวกในการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว ราคาไม่แพง และปลอดภัยผ่านบล็อกเชน โดยไม่ต้องจัดการกับข้อจำกัดของระบบการเงินแบบดั้งเดิม
Stablecoins นั้นมีความเสถียรและความผันผวนน้อยกว่าสินทรัพย์คริปโตอื่น ๆ เช่น Bitcoin (BTC) และ Ether (ETH) เป็นต้น ประโยชน์ของ Stablecoin มีดังต่อไปนี้:
- การค้ำประกันด้วยเงิน Fiat: เทคโนโลยี Blockchain ทำให้ธุรกรรมมีความปลอดภัย และการที่ธุรกรรมได้รับการค้ำประกันจากสกุลเงิน fiat จะเพิ่มระดับความปลอดภัยให้กับนักลงทุน
- มีความพร้อมในการใช้งาน: แม้ว่าธนาคารทั่วไปจะปิดทำการในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุด คุณยังคงสามารถใช้กระดานแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลเพื่อแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่คุณต้องการได้ ซึ่งการแลกเปลี่ยนเหล่านี้มีการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ และสามารถพบได้ทั่วโลก
- การใช้งานระหว่างประเทศ: Stablecoins สามารถอำนวยความสะดวก ในการส่งและรับการชำระเงินข้ามประเทศ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
- ความเสถียร: Stablecoins เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่มีความผันผวนในมูลค่าเหมือนสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ซึ่งหมายความว่าโดยทั่วไปแล้วราคาจะยังคงสอดคล้องกับสกุลเงินทั่วไป
- ธุรกรรมด่วน: การฝากเงินในสกุลเงินปกติ อาจใช้เวลานานกว่าจะแสดงในบัญชีธนาคารของคุณ ในขณะที่ การทำธุรกรรมของ Stablecoin นั้นเร็วกว่ามาก และมักจะเกิดขึ้นทันที
- ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำ: สำหรับการทำธุรกรรมทั่วไป คุณจะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่สูงเกินเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการโอนเงินระหว่างประเทศ ในทางกลับกัน Stablecoins เปิดโอกาสให้สำหรับการทำธุรกรรมที่มีต้นทุนต่ำ โดยแพลตฟอร์มเทรดคริปโตบางราย ถึงกับเสนอการซื้อขาย การโอน และการแปลงที่ไม่มีค่าธรรมเนียม (เช่น Crypto.com และ Binance)
- ความโปร่งใส: Stablecoins จำนวนมากมีความโปร่งใส ดังนั้นผู้ใช้สามารถเห็นได้ว่า มีสินทรัพย์สำรองเพียงพอ เพื่อแลกคืนเป็นเงิน fiat ได้
Stablecoins ทำงานอย่างไร?
มีการใช้ สัญญาอัจฉริยะ เพื่อจัดการการสร้างและการแลกเหรียญ Stablecoins ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงิน fiat เช่น USD เป็นจำนวนที่เทียบเท่าของ Stablecoin ในอัตราส่วน 1:1 จากนั้นสกุลเงิน fiat นี้จะถูกเก็บรักษาไว้โดยผู้ออก Stablecoin ทำให้ผู้ใช้สามารถแลก Stablecoins ของตนกลับเป็นสกุลเงิน fiat ด้วยมูลค่าที่เท่ากัน ได้ตลอดเวลา
สิ่งสำคัญ คือ ต้องทราบว่า Stablecoins สามารถค้ำประกันมูลค่าได้จากหลายแหล่ง นอกเหนือจากสกุลเงินปกติ (fiat) ซึ่งรวมถึงโลหะมีค่า, คริปโตเคอเรนซี่ อื่น ๆ และแม้แต่กลไกอัลกอริทึม ระดับความเสี่ยงของ Stablecoin จึงขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่ใช้ในการค้ำประกันมูลค่า โดยทั่วไปแล้ว Stablecoin ที่ได้รับการค้ำประกันมูลค่าจากสกุลเงิน Fiat ส่วนใหญ่มักจะมีเสถียรภาพมากกว่าแบบอื่นๆ เนื่องจากมีการเชื่อมโยงกับระบบการเงินแบบรวมศูนย์
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองทางกฎหมาย ยังไม่มีการรับประกันการแลกคืน Stablecoin ที่มีมูลค่าเทียบเท่าในสกุลเงิน fiat ผู้ออก Stablecoin ส่วนใหญ่ไม่ได้เสนอสิทธิ์ทางกฎหมายแก่ผู้ใช้ ในการเรียกร้องสกุลเงิน fiat คืน
ตัวอย่างเช่น ในกรณีของ Tether ข้อกำหนดในการให้บริการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทาง Tether มีสิทธิ์ที่จะชะลอการถอน หรือการแลก stablecoins คืนกลับเป็นเงิน fiat ในกรณีที่ขาดสภาพคล่อง หรือสูญเสียสินทรัพย์ที่สำรองไว้ นอกจากนี้ มีบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการคืนเงิน โดย Tether สามารถคืนหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ให้กับผู้ใช้ที่ไม่ใช่เงิน fiat ได้
ทางด้านเหรียญ Stablecoin ที่ได้รับการค้ำประกันมูลค่าด้วยคริปโตเคอเรนซี่ อื่น ๆ (เช่น ใช้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ค้ำประกันเพื่อออก stablecoins) อาจประสบกับความผันผวนที่มากกว่า และอาจไม่สามารถตรึงมูลค่าไว้ได้เสมอไป เนื่องจากความผันผวนของสินทรัพย์คริปโตที่นำมาค้ำประกัน
ในขณะที่ Stablecoins แบบ อัลกอริทึม ยิ่งมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากกลไกการสร้างและค้ำประกันมูลค่าในตัวเอง และมีความเสี่ยงอย่างมากต่อการลดค่าเงิน, การตรึงมูลค่า และการเก็งกำไร
ตัวอย่างเช่น TerraUSD (UST) ที่ออกโดยบล็อกเชน Terra (LUNA) ที่เขย่าวงการ Stablecoin เมื่อ UST สูญเสียการตรึงมูลค่า ส่งผลให้เกิดการลดค่าลงอย่างมาก ราคาของ LUNA ก็ลดลงตามมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนเทขาย UST ในราคาที่ต่ำลง ๆ เรื่อย ๆ ส่งผลให้เกิดการล่มสลายครั้งใหญ่ในระบบนิเวศของบล็อกเชน Terra
USDT คืออะไร? และทำงานอย่างไร?
USDT เป็นหนึ่งในเหรียญ Stablecoins ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีมูลค่าตลาดมากกว่า 69 พันล้านดอลลาร์ ออกโดยบริษัท iFinex ในฮ่องกง ซึ่งเป็นเจ้าของกระดานเทรดคริปโต BitFinex ด้วย
USDT เป็น stablecoin ที่ถูกตรึงมูลค่าไว้กับดอลลาร์สหรัฐ แบบ 1:1 และแต่ละโทเค็น ได้รับการค้ำประกันมูลค่า โดยสินทรัพย์ที่ถือครองไว้เป็นทุนสำรอง ดังนั้นจึงสามารถใช้ โอน หรือแลกเปลี่ยน USDT ได้เหมือนกับสกุลเงินทั่วไป
Tether เป็นหนึ่งใน cryptocurrencies แรก ๆ ที่สามารถจัดการกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับ blockchain เช่น การอำนวยความสะดวกในการโอนสกุลเงินของประเทศ และให้วิธีการตรวจสอบมูลค่าของโทเค็นแก่ลูกค้า
ในขณะที่ USDT เผชิญกับข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการจัดการเงินสำรอง และระดับการกระจายอำนาจ แต่ก็ยังคงเป็นหนึ่งในเหรียญ Stablecoin ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในตลาด และได้รับการยอมรับจากกระดานเทรดคริปโตจำนวนมาก และเข้ากันได้กับกระเป๋าเงินหลายใบ
บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง Tether มีความโปร่งใสมากขึ้นในการเปิดเผยเงินสดสำรองผ่านรายงานความโปร่งใสรายเดือน เพื่อพยายามแก้ไขข้อกังวลเกี่ยวกับความมั่นคง
USDC คืออะไร? และทำงานอย่างไร?
USDC เป็นอีกหนึ่ง Stablecoin ที่ได้รับการค้ำประกันมูลค่าจากเงินดอลลาร์สหรัฐ และได้รับการพัฒนาเพื่อลดความผันผวนของ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ผ่านการโอนเงินที่เร็วขึ้น สร้างโดย Circle Internet Financial โดย USDC เป็นโทเค็นที่ออกโดยบล็อกเชน Ethereum จึงสามารถเก็บไว้ในกระเป๋าเงินคริปโต หรือโอนไปยังบล็อกเชน Ethereum ได้
อย่างไรก็ตาม USDC นั้นแตกต่างจาก USDT ตรงที่มีการค้ำประกันอย่างสมบูรณ์และโปร่งใส หมายความว่า USDC มีการเปิดเผยอย่างชัดเจนเกี่ยวกับระบบนิเวศและเงินสำรอง โทเค็น USDC สามารถแลก 1:1 เป็น USD ผ่านสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรภายใต้การควบคุมของ Circle ซึ่งจำเป็นต้องผ่านการรับรองและการตรวจสอบรายเดือน เพื่อให้แน่ใจว่าเงินสำรองเพียงพอ สิ่งนี้ส่งเสริมความไว้วางใจ และความโปร่งใสในมูลค่าของ Stablecoin ซึ่งตรงข้ามกับการจัดการที่ขัดแย้งของ USDT
นอกจากนี้ USDC ยังเป็นเหรียญ Stablecoin ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย โดยมีการไหลเวียนมากกว่า 42 พันล้านดอลลาร์ และได้รับการสนับสนุนจากกระดานเทรดคริปโต และกระเป๋าเงินคริปโตชั้นนำ อย่าง Coinbase และ Gemini นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินรายใหญ่ เช่น Goldman Sachs, Visa และ Bitmain
USDC ได้ขยายไปสู่การเป็น multichain มากขึ้นและยังมีอยู่ใน blockchains เช่น Polygon, Avalanche, Algorand, Solana, Hedera, Tron และอีกมากมาย
BUSD คืออะไร? และทำงานอย่างไร?
Binance และ Paxos ได้ร่วมมือกันสร้าง BUSD เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงธุรกรรมที่รวดเร็วและยืดหยุ่นสำหรับผู้ใช้คริปโต นอกจากนี้ BUSD ยังใช้สกุลเงิน fiat ในการค้ำประกันมูลค่าเช่นเดียวกันกับ USDT และ USDC โดย BUSD นั้นได้รับการควบคุม ให้มีมูลค่าเทียบเท่ากับหนึ่ง USD และสามารถแลกเป็นเงินสดได้ในอัตราส่วน 1:1
ปัจจุบัน BUSD นอกจากทำงานอยู่บน BNB Chain แล้ว ยังมีอยู่บนบล็อกเชน Ethereum อีกด้วย ทำให้ ผู้ที่ถือ BUSD อาจสามารถแลกเปลี่ยน Stablecoins ระหว่างบล็อกเชนได้ ซึ่งช่วยให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นและประหยัดต้นทุนในการโอน
นอกจากนี้ BUSD ยังขยายเครือข่ายโดยได้รับการสนับสนุนจากกระดานเทรดคริปโตที่สำคัญ ๆ อย่าง Huobi และ OKX กระเป๋าเงินคริปโต เช่น Trust Wallet และสถาบันการเงินรวมถึง BlockFi
BUSD แตกต่างกับ Stablecoin ตัวอื่น ๆ ที่อาจถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส เนื่องจาก BUSD นั้นได้รับการตรวจสอบเป็นประจำโดย Withum ซึ่งเป็นบริษัทบัญชีชั้นนำ
สิ่งที่มีความเหมือนกัน ระหว่าง USDT, USDC และ BUSD:
แม้จะออกโดยบริษัทที่แตกต่างกัน แต่เหรียญ Stablecoin ยอดนิยมทั้ง 3 นี้ ก็มีความคล้ายคลึงกันหลายประการ ประการแรก ทั้ง 3 ได้รับการค้ำประกันมูลค่าจากเงิน fiat ในอัตรส่วนแบบ 1:1 กับ USD ทำให้เป็นตัวเลือกที่เสถียรกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ได้รับการยอมรับและสนับสนุนโดยทั่วไปจากกระดานเทรดคริปโต และกระเป๋าเงินคริปโตหลัก ๆ และสามารถแลกเป็นเงินสดได้แบบ 1:1
Stablecoins เหล่านี้ได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อส่งเสริมความไว้วางใจ และความโปร่งใสในมูลค่า นอกจากนี้ Stablecoin ทั้ง 3 ยังมีอยู่ในบล็อกเชนของ Ethereum เหมือนกัน แม้ว่าทั้งหมดนี้จะขยายไปสู่การเป็น multichain
สิ่งที่แตกต่างกัน ระหว่าง USDT, USDC และ BUSD:
ข้อแตกต่างที่สำคัญ ที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ใช้ ว่าจะใช้ Stablecoin ตัวใด ความแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งคือบล็อกเชนที่มี Stablecoins เหล่านี้ให้บริการ
ตัวอย่างเช่น BUSD ยังคงจำกัดเฉพาะ Ethereum และ BNB Chain ในขณะที่ USDC และ USDT กลายเป็นหลายเชนมากขึ้น ครอบคลุมเครือข่ายต่างๆ เช่น Solana, Algorand, Avalanche และอื่นๆ ข้อได้เปรียบหลักของการใช้หลายบล็อกเชนคือความเร็ว ทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อขายสินทรัพย์ได้รวดเร็วขึ้นและอาจมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า
ในแง่ของเสถียรภาพ USDT มีความเสียเปรียบ เนื่องจากบางครั้งมูลค่าลดลงต่ำกว่า $1.00 ทำให้ผู้ใช้มีความคลางแคลงว่าเงินสำรองของ Tether อาจไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่
มูลค่าของ USDT ยังเคยเพิ่มขึ้นสูงกว่า $1.00 หลายครั้ง เคยสูงถึง $1,000 ต่อ USD ในปี 2019 และเคยมีราคาต่ำสุดเท่าที่เคยซื้อขายมาจนถึงตอนนี้ อยู่ที่ $0.001 ต่อ USD ในปี 2019 เช่นกัน
ในทางกลับกัน USDC และ BUSD ไม่พบปัญหาที่คล้ายกันและสามารถตรึงกับ USD ที่มูลค่า $1.00 ได้อย่างสม่ำเสมอ ในความเป็นจริงแล้ว Stablecoin ทั้ง 2 มีมูลค่าที่แทบจะไม่แกว่งไปมา ไม่ว่าจะสูงหรือเกิน $1.00 โดยมูลค่าของทั้งคู่เคลื่อนไหว อยู่ระหว่าง $0.99 ถึง $1.02 โดยประมาณ โดยยังคงรักษามูลค่าที่ $1.00 ได้อย่างสม่ำเสมอ
ประการสุดท้าย USDT ยังคงเป็นตัวเลือกที่ขัดแย้งเนื่องจากการจัดการเงินสำรอง ในทางตรงกันข้าม USDC และ BUSD ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินรายใหญ่ และผ่านการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่ามีเงินสำรองเพียงพอ
นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างที่สำคัญอื่น ๆ ระหว่างทั้ง 3 เช่น เกี่ยวกับสำนักงานตรวจสอบบัญชีและสินทรัพย์สำรอง นี่คือการเปรียบเทียบของเหรียญ Stablecoin ทั้ง 3:

ท้ายที่สุดแล้ว ทางเลือกของ Stablecoin อาจขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและสิ่งที่รองรับโดย Exchange หรือกระเป๋าเงินคริปโตที่ผู้ใช้ต้องการ นอกจากนี้ยังอาจขึ้นอยู่กับกรณีการใช้งานเฉพาะ เนื่องจากเหรียญ Stablecoin บางตัวอาจมีข้อได้เปรียบในบางสถานการณ์เหนือเหรียญอื่นๆ
ที่มา LINK